อัปเดต! รพ.สต.โคราช 182 แห่งพร้อมถ่ายโอนไป อบจ.

รองนพ.สสจ.นครราชสีมา เผยล่าสุดมี รพ.สต. 182 แห่งพร้อมถ่ายโอนภารกิจไป อบจ. ขณะที่แม้ถ่ายโอนแล้ว สธ.ยังเป็นพี่เลี้ยงส่งเสริมพัฒนา เพื่อประโยชน์ปชช.เช่นเดิม

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2564 นายแพทย์วิชาญ คิดเห็น รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยกับ Hfocus กรณีถ่ายโอนภารกิจ “โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล” สู่ “องค์การบริหารส่วนจังหวัด” ว่า รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่า เราจะต้องมีการถ่ายโอนภารกิจที่เป็นทุกส่วนราชการ ส่วนกลาง ให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้ทุกหน่วยงานนั้น ต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมายตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเตรียมความพร้อมการถ่ายโอนอย่างไรบ้าง....

นายแพทย์วิชาญ กล่าวว่า 1. เราสำรวจในเรื่องขององค์การบริหารส่วนจังหวัดว่ามีความพร้อมหรือไม่ในการที่จะรับถ่ายโอน รพ.สต. ซึ่งหากประเมินแล้วพบว่า อบจ. มีความพร้อมในการรับถ่ายโอนจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว
2. กระทรวงสาธารณสุขทำการสำรวจร่วมกันกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่า รพ.สต. ที่อยู่กับเรา มีความพร้อมที่จะถ่ายโอนไปอยู่กับ อบจ. มากน้อยเพียงใด ล่าสุด จากการสำรวจพบว่า รพ.สต. ที่พร้อมถ่ายโอนไป อบจ. มีทั้งหมดประมาณ 182 แห่ง ที่มีความต้องการจะถ่ายโอนไปอยู่กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่ง รพ.สต. ในบางอำเภอ ก็พร้อมถ่ายโอนไปทั้งหมด

เมื่อถามว่า ถ่ายโอนไปแล้ว สสจ. ยังต้องทำงานร่วมกันกับ รพ.สต. อย่างไรบ้าง....

นายแพทย์วิชาญ กล่าวว่า การถ่ายโอนนั้นเป็นการเปลี่ยนสังกัดจากที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ) ก็จะไปสังกัดที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ.) ซึ่งเหมือนกับโรงเรียน ที่ขึ้นอยู่กับกระทรวงศึกษาธิการ แต่ก็จะมีบางโรงเรียนที่ไปอยู่กับสังกัดคณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ค.อบจ.) ดังนั้นเรื่องของการบริหารจัดการคน งบประมาณ ก็จะเป็นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้งหมด

“แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขเรายังมีภารกิจร่วมกันก็คือ การดูแลการเจ็บไข้ได้ป่วยของพี่น้องประชาชน ซึ่งมีหน้าที่คือเราต้องดำเนินการส่งมอบภารกิจนี้ให้กับ อบจ. อย่างราบรื่น ถูกต้อง และเป็นไปเพื่อประโยชน์การให้บริการประชาชนพี่น้องด้านสาธารณสุขอย่างแท้จริง สรุปคือเราก็จะอยู่ในบทบาทพี่เลี้ยงในการเป็นผู้กำกับดูแลด้านมาตรฐานวิชาชีพ ร่วมกับ อบจ. รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนา รพ.สต. ให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้ได้มากขึ้น ถึงจะย้ายไปสังกัดไหนแต่ก็ยังทำงานร่วมกันเหมือนเดิม” นายแพทย์วิชาญ กล่าว