แอสตร้าฯจับมือสยามไบโอไซเอนซ์ เป็นผู้ผลิตวัคซีนหลักให้ไทยต่อไป ต่อยอดความยั่งยืนด้านสาธารณสุข

เมื่อวันที่​ 25​ พ.ย.บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) ร่วมกับ​ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด​ แถลงข่าวผ่านระบบ​ virtual tour พร้อมทั้งเปิดกระบวนการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19​ “FROM LAB TO JAB”

นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า​ บริษัทแอสตร้าฯ​ ได้ทำการส่งมอบวัคซีนกว่า​ 2​ ​พันล้านโดสไปยัง 170​ ประเทศทั่วโลก​ โดยเฉพาะประเทศที่รายได้น้อยและปานกลาง​ สามารถลดการติดเชื้อโควิดได้ถึง​ 50​ ล้านเคส​

"แอสตร้าฯ​ ทำงานร่วมกับเครือข่าย​ 25​ แห่งทั่วโลกเพื่อพัฒนา​ นำส่งวัคซีน​ สยามไบโอไซเอนซ์เป็นผู้แทนตัวอย่างที่เข้มแข็งที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้​ ทันสมัย​ มีโรงงานผลิตวัคซีนในปริมาณมากๆ​ โดยในไทย​ บริษัทแอสตร้าฯ​ ยังสามารถผลิตวัคซีนล็อตแรกออกมาในเดือน​ มิ.ย.​ และผลิตเดือน​ละ 50​ ล้าน​โดส​ ​ได้จริง​ ทั้งนี้​ในปี​หน้าแอสตร้าฯ​ จะยังคงเป็นวัคซีนหลักในไทย​ รวมถึงจะมีการต่อยอดเรื่องความยั่งยืนด้านการเข้าถึงสาธารณสุขต่อไป" ประธาน บ.แอสตร้า​ กล่าว

นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กล่าวว่า​ สยามไบโอไซเอนซ์ ก่อตั้งมาเมื่อ​ 12 ปี​ที่แล้วเป็นโรงงานชีววัตถุที่ผลิตยาเม็ดเลือดแดง​ และยากระตุ้นเม็ดเลือดขาว​ ลงทุนหลายพันบ้านบาทเพื่อช่วยเหลือคนไทยรวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน

"สยามไบโอไซเอนซ์ได้รับการคัดเลือกจาก​ บริษัท แอสตร้าฯ​ให้เป็น​ Global Partner รับการถ่ายทอดทางเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ​ หลังจากใช้เวลา​ 8-9 เดือนก็สามารถผลิตวัคซีนออกมาให้ทุกคนใช้ชีวิตปกติต่อไป​ และได้รับการรับรองจาก​องค์การอนามัยโลก​ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่​ บริษัทแอสตร้าฯ​เลือกร่วมงานกับสยามไบโอไซเอนซ์" นางนวลพรรณ​ กล่าว

ด้าน​ ดร.ทรงพล ดีจงกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กล่าวว่า​ ตลอด​ 10​ ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ผลิตชีววัตถุ​ ปี​ 2019​ ก่อนเกิดโรคโควิดได้สร้างโรงงานแห่งที่​ 3​ เกือบ​ 5​ พันล้านบาท​ ปัจจุบันการร่วมมือกับ บริษัทแอสตร้าฯ​ บริษัทก็ได้ปรับสายการผลิตเพื่อให้ตรงกับความต้องการ

"การทำงานร่วมกับ​ บริษัทแอสตร้า​ ผมคิดว่าเราได้​ 4M คือ​ Manufacturing เครื่องจักร​ Man Power กำลังพลที่ต่อยอดองค์ความรู้ในประเทศนำประสบการณ์ในการผลิตวัคซีนในอนาคต​ Material วัตถุดิบที่ใช้ผลิต ซึ่งต้องแย่งชิง​ และ​ Method เทคโนโลยีทรานฟอร์ม​ บวกกับความคาดหวังของ​ บริษัทแอสตร้าฯที่เราต้องผลิตให้ทันเวลา​ โดยยึด​ 2 ​อย่างคือมาตรฐานการผลิต​ กับการควบคุมคุณภาพ​ ทั้ง​ 2​ ส่วนเป็นมาตรฐานสากล​ในการผลิตวัคซีน​ ความคาดหวังของ​ บริษัทแอสตร้า​และส่งมอบได้ทันเวลา​ กระบวนการต่างๆผ่านการวิคราะห์กว่า​ 60 ระบบ​ แต่ละขั้นตอนจะได้รับการตรวจสอบอีก​ 3​ ​ครั้ง​ ขอให้ประชาชนมั่นใจในคุณภาพวัคซีน" กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์​ กล่าว