ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.ชวนประชาชนเที่ยวมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติระว่างวันที่ 22-26 ธ.ค.ที่พารากอน แจกเมล็ดพันธุ์สมุนไพร 4 ชนิด พร้อมน้ำมันกัญชา และให้บริการปรึกษ่ากฎหมายกัญชาฟรี รวมทั้งบริการคำแนะนำการแพทย์แผนไทยครบวงจร

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นพ.พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมแถลงข่าวงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 18 ภายใต้รูปแบบแนวคิด “กัญชานำไทย สมุนไพรสร้างชาติ” ทั้งในรูปแบบออนไซต์ และออนไลน์ เพื่อยกระดับนวัตกรรมอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีด้านสุขภาพ และสร้างความเข้มแข็ง ให้เครือข่ายชุมชน/ผู้ประกอบการธุรกิจ บริการสุขภาพเพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจภายในประเทศและอนาคต จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 26 ธ.ค. ที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

นายสาธิต กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่ขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ สธ.มีนโยบายสนับสนุน ส่งเสริมสมุนไพรไทย กัญชา กัญชง ให้เป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อให้สมุนไพรไทยภูมิปัญญาไทยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ โดยเฉพาะกัญชา (cannabis) เป็นพืชสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร อุตสาหกรรม ธุรกิจ และประชาชน ปัจจุบันทั่วโลกเริ่มให้การยอมรับมากขึ้น ตลาดกัญชาที่ถูกกฎหมายมีขนาดใหญ่ถึง 17.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 5 แสนล้านบาท และครองอัตราการเติบโตมากกว่า ร้อยละ 17 ซึ่งอุตสาหกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ กัญชาสร้างรายได้สูง 70% ของมูลค่าทั้งหมด รัฐบาลจึงเล็งเห็นว่ากัญชาเป็นพืชสมุนไพรที่เป็นทางออกทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่เข้าร่วมงานปฏิบัติตามมาตรการโควิดฟรีเซ็ตติ้ง เพื่อปลอดภัยจากโควิด-19

“เราเชื่อมั่นในสมุนไพรไทยทั้งจากคนไทยและต่างชาติ ในผลิตภัณฑ์แชมเปี้ยนโปรดักส์ (Champion Products) ได้แก่ กระชายดำ ไพล บัวบก และขมิ้นชัน นำสู่ความเชื่อมั่นให้สมุนไพรอื่นที่มีความนิยมและส่งออกอยู่แล้ว ในวิกฤตโควิดเราก็จะใช้โอกาสในการเดินหน้าผลักดันให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการใช้สมุนไพร ด้วยกรมวิทย์ และ อย. มีข้อมูลสนับสนุน กรมแพทย์แผนไทยฯ ผลิตสินค้า เป็นต้น โดยมั่นใจว่าคลินิกกัญชาของไทย ที่มีแพทย์แผนไทยประยุกต์ โดยมีแพทย์แผนปัจจุบันเป็นผู้ดำเนินการจ่ายยาให้ผู้ป่วย ก็จะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว” นายสาธิต กล่าว

นพ.พิเชฐ กล่าวว่า เรื่องกัญชา กรมวิทย์เราทำทั้งปลูก สกัด วิเคราะห์และวิจัย ส่วนกัญชาขึ้นห้างในงานนี้ เราจะมีการจัดแสดงสายพันธุ์กัญชาไทยที่โดดเด่น ทั้งสารเคมี รหัสพันธุกรรมที่เหมือนเทียบกับที่อื่นแล้วจะมีเอกลักษณ์ของไทย โดยมี 4 สายพันธุ์เด่นใน 3 รูปแบบคือ 1.กัญชาที่มีสาร CBD สูง เช่น ตะนาวศรีก้านแดง มีกลิ่นหอมผลไม้รวมโดดเด่นมาก 2.กัญชาที่มีสาร THC เด่น เช่น ตะนาวศรีก้านขาว หางเสือ ที่มีกลิ่นต่างจากกัญชาต่างประเทศ และ 3.กัญชาที่มีทั้ง 2 สารเท่ากัน เช่น หางกระรอก จะมีกลิ่นช่อดอกที่หอมเหมือนมะม่วงสุก ดังนั้น อาหารไทยที่เติมกัญชาไทยเข้าไป ก็จะมีความโดดเด่น จำเพาะของไทย

“เราเอารากกัญชาไยมาศึกษาในหลอดทดลอง กับเซลล์ปอดที่เป็นแผล พบว่า เซลล์สมานเร็วอย่างมีนัยยะสำคัญ ทางกรมวิทย์จึงกำลังศึกษาให้เป็นเครื่องดื่ม ใช้กับผู้ติดเชื้อโควิดที่มีปัญหาที่ปอด รวมถึงการใช้สารสารสกัดช่อดอกกัญชา กับเซลล์มะเร็ง ซึ่งได้ผลดีในปริมาณสาร THC และ CBD ที่ต่างกัน ฉะนั้น กัญชาไทยมีคุณค่าทั้งต้น ใบ ดอก และราก” นพ.พิเชฐ กล่าว

ด้าน นพ.ยงยศ กล่าวว่า ภายในงานมีบูธกิจกรรมกว่า 200 บูธ และพื้นที่จัดแสดงกึ่งบูธกว่า 2 พันตารางเมตร เช่น การจัดแสดงสายพันธุ์กัญชาไทย และนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ บริการเกี่ยวกับกัญชา ศูนย์ให้คำปรึกษาเส้นทางกัญชาในทุกมิติ เช่น กฎหมาย การขออนุญาต การปลูก และธุรกิจกัญชาไทย การปาถกฐาพิเศษ ในหัวข้อฟ้าทะลายโจร กระชาย สมุนไพรพลิกวิกฤตโควิด-19 กัญชาจากนโยบายสู่พื้นที่ไร้รอยต่อ ต่อยอดเศรษฐกิจ โอกาสและความท้าทาย การพัฒนาสมุนไพรไทย เชิงเศรษฐกิจ แพคเกจเส้นทางท่องเที่ยวกัญชาในการดูแลสุขภาพ บริการและคลินิกให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ได้แก่ คลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย คลินิกการแพทย์แผนจีน และการแพทย์ทางเลือก โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย Workshop หลักสูตรระยะสั้น และ แจกน้ำมันกัญชาทางการแพทย์ให้ผู้ป่วย

พญ.โศรยา กล่าวด้วยว่า ทาง รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมในงานเพื่อแสดงสินค้าจากกัญชา ที่นอกจากรักษาโรคแล้วเรายังให้ความรู้การทำเป็น Wellness Spa เพื่อให้กัญชามีมูลค่าเพื่อในระดับเอเซียได้ ซึ่งทางญี่ปุ่นสนใจเรื่องกัญชาอย่างมาก เพราะช่วงโควิดทำให้ญี่ปุ่นซบเซา นอกจากนั้น อภัยภูเบศรฯ เห็นปัญหาสุขภาพในช่วงโควิด ซึ่งไทยติดอันดับการดูแลโควิดได้ดี เสียชีวิตน้อย แต่เรามีอาการ long covid-19 ที่ต้องดูแลต่อ เราจึงศึกษาการนำสมุนไพรมาดูแบบองค์รวม ซึ่งเป็นกระแสโลกในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ภายในงานเราจะแจกเมล็ดพันธุ์สมุนไพรอีก 4 ชนิด ที่ควรมีติดบ้านไว้ในสถานการณ์โควิด ฟรีวันละ 1 ชนิด ชนิดละ 300 ซอง ได้แก่

1.พริกโรธ หรือ พริกช้างแส่น เป็นพริกที่ขึ้นชื่อว่าเผ็ดที่สุดในโลก และมีการศึกษาในสหรัฐพบว่า คนที่กินพริกมีอายุยืนกว่าคนที่ไม่กิน พริกมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านไวรัส

2.บัวบก โดเด่นเรื่องการเสริมความจำ บำรุงสมอง ช่วยการนอนหลับ ปรับภูมิคุ้มกัน ต้านการเกิดพังผืดที่ปอด

3.หอมแดง พันธุ์สยามเรด เป็นสายพันธุ์พื้นบ้านของไทย และอุดมไปด้วยสารสำคัญที่ดี มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านอักเสบ และนิยมใช้แก้หวัด

4.กระเทียมแก้ว เป็นสมุนไพรเก่าแก่ มีรสเผ็ดอุ่น ฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกัน ต้านไวรัส ต้านอนุมูลอิสระ ใช้ได้ในการกินเพื่อป้องกันหวัด และฟื้นฟูหลังเจ็บป่วยได้ และ ยังแจกฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่ใช้ได้ในระยะของการติดเชื้อ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงเพื่อลดโอกาสเกิดความรุนแรงของโรคได้ และยังมีฤทธิ์ต้านไวรัส ต้านการอักเสบที่โดนเด่น และพิเศษมากขึ้น เราจะแจกหนังสือสมุนไพร บันทึกของแผ่นดิน ฉบับพิเศษ เนื้อหาเกี่ยวกับสมุนไพรเพื่อการรับมือ และภาวะหลังโควิด-19 วันละ 200 เล่ม