ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันเห็นชอบหลักการฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 4 กระตุ้นบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข บุคลากรด่านหน้า กลุ่มโรคเรื้อรังที่ภูมิคุ้มกันต่ำ หากฉีดเข็ม 3 เกิน 3 เดือนให้กระตุ้นได้ทันที พร้อมเผยสูตรฉีด หากเป็น SV+SV+AZ ตามด้วย AZ หรือPZ หรือสูตรเริ่มจาก SV+SV+PZ ให้ตามด้วย PZ พร้อมอนุมัติฉีดวัคซีนในเด็ก 5-11 ปีตามวัคซีนที่ผ่าน อย. อยู่ระหว่างสำรวจตัวเลขนักเรียน เน้นสื่อสารให้ผู้ปกครองเข้าใจ ไม่ต้องรีบฉีด

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังการคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคว่า เบื้องต้นที่ประชุมเห็นชอบ 2 เรื่องหลักๆ คือ 1.เห็นชอบฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มที่ 4 กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และบุคลากรด่านหน้า รวมทั้งกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือที่กินยากดภูมิคุ้มกัน โดยให้สามารถฉีดกระตุ้นเข็มที่ 4 ได้หลังจากฉีดเข็มที่ 3 มาแล้ว 3 เดือน ซึ่งหากใครเข้าเกณฑ์ดังกล่าวสามารถฉีดได้ทันที

2.เห็นชอบให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแก่เด็กอายุ 5-11 ปี โดยต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ที่สำคัญต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครองเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนในเด็ก โดยเรื่องนี้กำชับว่า ไม่ต้องรีบฉีด เน้นทำความเข้าใจเป็นหลัก ซึ่งสถานที่ฉีดจะเป็นทั้งโรงเรียน หรือโรงพยาบาล แต่ส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนเป็นสำคัญ

“มติดังกล่าวจะมีการจัดทำร่างรายละเอียดและเวียนแจ้งให้กรรมการแต่ละท่านพิจารณา ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการชุดต่างๆ ทั้งกรรมการในศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคโควิด หรือที่ประชุมอีโอซีของกระทรวงสาธารณสุข และเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการโรคตติดต่อแห่งชาติที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งจะประชุมในวันศุกร์นี้ (24 ธ.ค.)” นพ.โอภาส กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข หรือกลุ่มด่านหน้า การฉีดวัคซีนเข็ม 4 ต้องเป็นสูตรอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า เป็นสูตรตามที่เคยออกไปก่อนหน้านี้ โดยหลักหากรับวัคซีนเชื้อตาย ให้ต่อด้วยไวรัลแวกเตอร์ และตามด้วยชนิด mRNA เช่น หากรับซิโนแวคเข็มที่ 1 ซิโนแวคเข็มที่ 2 และแอสตร้าฯเข็ม 3 ให้ต่อด้วยแอสตร้าฯ หรือไฟเซอร์ ก็ได้ หรือซิโนแวค ซิโนแวค ไฟเซอร์ ให้ต่อเข็ม4 ด้วยไฟเซอร์

เมื่อถามถึงกรณีตัวเลขของเด็กนักเรียนที่จะฉีดจะดำเนินการอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า กำลังหารือกับกระทรวงศึกษาธิการ ว่าจะฉีดกี่คน อย่างไร ให้ผู้ปกครองแสดงความประสงค์ แต่เรื่องนี้ไม่ต้องรีบมากนัก อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จะเป็นช่วงของการเตรียมการ ดังนั้น ต้องเน้นสร้างความเข้าใจมากที่สุด