ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ.เผยขณะนี้กำลังติดตามผู้สัมผัสกรณีครอบครัวหนึ่งในจ.กาฬสินธุ์ เดินทางกลับมาจากตปท. ไม่พบเชื้อครั้งแรก แต่ต่อมาพบติด “โอไมครอน” มีประวัติเดินทางไปหาลูกเขยที่อุดรธานี ด้านกรมวิทย์ชี้เป็นเคสติดตามได้ ส่วนติดโอไมครอน 104 รายยังผูกโยงตปท.ทั้งหมด

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ว่า ขณะนี้จากการตรวจเบื้องต้นพบสะสม 104 ราย และกำลังติดตามผู้สัมผัสกรณีครอบครัวหนึ่งที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ผลการตรวจไม่พบเชื้อ แต่มาพบการติดเชื้อภายหลังเป็นสายพันธุ์โอไมครอน มีประวัติเดินทางไปหาลูกเขยที่ จ.อุดรธานี แต่ไม่น่าจะเป็นกรณีใหญ่ เนื่องจากรับทราบเส้นทางในการติดตามผู้สัมผัสชัดเจน

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า สายพันธุ์โอไมครอนเมื่อเทียบกับเดลตา อัลฟา อาการไม่ได้รุนแรงมากกว่ากัน เพียงแต่อาจติดเชื้อเร็ว แต่เรื่องนี้ก็ต้องเทียบบริบทระหว่างไทยและยุโรปด้วย อย่างไทยเราเข้มมาตรการ DMHTT กว่า 90% ยุโรปใช้ชีวิตเหมือนเราหรือไม่ ขณะที่การเข้าออกประเทศยุโรปเป็นแบบประชาคม แต่ของไทยจะข้ามไปเมียนมา ลาว ก็ยังลำบาก การเทียบฐานที่ต่างกันก็จะเอามาเป็นความวิตกกังวลมากไม่ได้ ตราบใดที่โอไมครอนยังไม่ ได้พิสูจน์ทางการแพทย์ว่า ฤทธิ์ของมันทำให้รุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น เราก็เฝ้าระวังเหมือนโควิด ไม่ต้องกังวลว่าเป็นสายพันธุ์อะไร ให้รีบไปรับเข็ม 3 ซึ่งได้สั่งการกรมควบคุมโรค โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เร่งกระจายวัคซีนไปให้มากที่สุด

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับยายังมีเพียงพอ เราผลิตเอง วัคซีนก็เพียงพอ และใช้มาตรการควบคุมป้องกันโรค โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เนื่องจากเราไม่ได้ปิดอะไร ก็ขอความร่วมมือใช้ COVID Free Setting อย่างเข้มงวด ให้นั่งห่างๆ แต่พอจัดจริงบอกกันคนไม่อยู่ ควบคุมไม่ได้ ถ้าควบคุมไม่ได้ถือว่าบกพร่อง มีความผิดต่อกฎหมายด้วย ผู้อนุญาตให้จัดก็ต้องรับผิดชอบระเบียบต่างๆ ด้วย ถ้าทุกคนใช้ COVID Free Setting ผู้ประกอบการต่องเข้มเช็ก ATK ตรวจการฉีดวัคซีนของหมอพร้อม ผู้ไปรับบริการให้ความร่วมมือ โอกาสติดก็จะลดความเสี่ยงลงมา

"ที่ผ่านมาการใช้ระบบดูแลผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงที่บ้านและชุมชน หรือ HI และ CI ได้ผลมาก เราเตรียมเรื่องนี้อยู่ ตอนนั้นที่วุ่นวายหนักเพราะต้องการดูแลผู้ป่วยทั้งหมด ไม่คิดว่าจะระบาดมากขนาดนี้ คนป่วยนิดหน่อยก็ไป รพ.สนาม แต่ตอนนี้เราใช้ระบบ HI CI อาการปานกลางเข้า รพ.สนาม ฮอสปิเทล ดังนั้น รพ.น่าจะมีเตียงเพียงพอดูแลอาการหนัก และหวังว่าเมื่อรับวัคซีนแล้ว ก็จะลดจำนวนการป่วยหนัก ขอว่าอย่าเพิ่งกังวลอะไรที่เกินไป ถ้าระวังตัวตลอดเวลา ลดอัตราเสี่ยงติดเชื้อได้เยอะ" นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีนักท่องเทียวชาวอิสราเอลที่ติดโควิดหนีออกจากโรงแรมกักตัวย่านสุขุมวิท นายอนุทินกล่าวว่า ตำรวจติดตามหนักอยู่แล้ว ถ้าเจอต้องรีบรักษาก่อน ไม่ใช่เจอแล้วไล่ออกไป แต่รักษาเสร็จก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าเขาหนี เราก็ต้องเนรเทศ

วันเดียวกัน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมกรณีติดตามเคสครอบครัวกาฬสินธุ์ ว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อโอไมครอนที่พบ 104 รายนั้น ทั้งหมดยังเป็นการผูกโยงกับผู้เดินทางจากต่างประเทศ โดยใน 104 รายนี้ มี 1 รายที่รายงานไปก่อนหน้านี้แล้วคือ ภรรยาคนไทยที่ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ แต่ติดเชื้อโอไมครอนจากสามีที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และอีก 1 รายเป็นลูกเขยที่ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ แต่ติดเชื้อจากคู่สามีภรรยาที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เป็นกรณีครอบครัวกาฬสินธุ์ โดยลูกเขยอยู่ที่จ.อุดรธานี

“ขอย้ำว่าทั้งหมดยังเป็นการติดเชื้อที่ผูกโยงกับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งสิ้น ยังไม่มีจุดเริ่มต้นที่เกิดขึ้นในประเทศไทยหรือมีคลัสเตอร์ที่เจอในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม จะมีการชี้แจงกรณีดังกล่าวต่อไป”นพ.ศุภกิจกล่าว