ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค ชี้อย่าตระหนก! กรณีพบผู้ป่วยติดโควิดร่วมกับไข้หวัดใหญ่ ไม่ใช่การผสมเชื้อ เจอได้ทางการแพทย์ ล่าสุดผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ส่วนไทยยังไม่พบลักษณะนี้ พร้อมย้ำการฉีดวัคซีนหวัดใหญ่-วัคซีนโควิดป้องกันได้ ให้ฉีดห่างกัน 2 สัปดาห์  

ตามที่มีข้อกังวลกรณีอิสราเอลพบคนติดเชื้อโควิด-19 ร่วมกับไข้หวัดใหญ่ จะส่งผลให้อาการรุนแรงขึ้นหรือไม่ และประเทศไทยต้องเตรียมรับมืออย่างไรนั้น

เมื่อวันที่ 3 ม.ค.2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ ว่า จริงๆในวงการแพทย์การติดเชื้อร่วมสามารถพบได้ อย่างคนติดเชื้อแบคทีเรีย และมีไวรัสแทรกก็พบกันอยู่ ส่วนกรณีนี้ที่พบว่า ติดโควิด-19 และมีไข้หวัดใหญ่นั้น ก็เป็นเรื่องที่สามารถเจอได้ ที่สำคัญการติดเช่นนี้ไม่ได้รวมกันจนกลายเป็นเชื้อใหม่ จึงขอให้อย่าเข้าใจผิด และอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากตามข่าวตามข้อมูลที่ออกมาพบว่า ผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้มีอาการรุนแรง และขณะนี้ประเทศไทยก็ยังไม่เจอเคสลักษณะนี้เช่นกัน 

"การติดเชื้อลักษณะนี้ ไม่เป็นไร  เจอได้เช่นกัน ซึ่งไม่ใช่เป็นการผสมจนเกิดเชื้อใหม่ สิ่งสำคัญหากเราปฏิบัติตามคำแนะนำมาตรการในการป้องกันโรค อย่างการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันโควิดก็จะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ โดยสามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ห่างจากวัคซีนโควิดประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นคำแนะนำที่ทางกระทรวงสาธารณสุขออกมาก่อนหน้านี้ จึงขออย่าตื่นตระหนก และขอให้มีการนำเสนอข้อมูลอย่างครบถ้วน เพื่อให้ประชาชนเข้าใจอย่างแท้จริง" นพ.โอภาส กล่าว

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org