ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองอธิบดีกรมอนามัย ชวนหญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนโควิด หลังตัวเลขยังไม่มาก พบ 37%จากเป้าหมายราว 3 แสนคน ชูนโยบายเลือกชนิดวัคซีนได้ตามสูตรที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ พร้อมย้ำปลอดภัยสูง หากไม่ฉีดและติดเชื้อเสี่ยงอันตรายกว่า

แม้ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะเร่งรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ทั้งเข็มแรก เข็มสอง และเข็มกระตุ้นตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ แต่ยังพบว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในหญิงตั้งครรภ์ยังมีจำนวนน้อย ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่ต้องเร่งประชาสัมพันธุ์ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงหากรับเชื้อโควิดอาจมีอาการรุนแรง และเสี่ยงเสียชีวิต

เรื่องนี้  นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข  ให้สัมภาษณ์ถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์ ที่ยังพบไม่มาก ว่า   ขณะนี้หญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดได้ประมาณ 37% ในเข็มแรก  จากเป้าหมายตั้งไว้ราว 3 แสนคน ขณะนี้ฉีดได้ประมาณแสนกว่าคน อย่างไรก็ตาม เราพบว่ามีสตรีตั้งครรภ์ประมาณ 2 ใน 3 ที่ไม่ตัดสินใจฉีดวัคซีน เนื่องจากความกังวลว่า วัคซีนจะมีผลต่อทารกในครรภ์ ซึ่งล่าสุดเราให้คำแนะนำว่า วัคซีนทุกตัวมีความปลอดภัยจากผลการศึกษาในต่างประเทศ โดยเฉพาะวัคซีนกลุ่ม mRNA  เช่น ไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา โดยต่างประเทศฉีดเป็นล้านคนพบว่า ปลอดภัย ซึ่งไทยมีวัคซีนพอเพียง ดังนั้น สตรีมีครรภ์สามารถไปฉีดวัคซีนได้ที่คลินิก หรือสถานพยาบาลที่ตัวเองฝากครรภ์ได้ทันที 

"ขณะนี้หลายแห่งมีนโยบายคนท้องเลือกวัคซีนได้ว่า อยากฉีดตัวไหน หากมีความสบายใจฉีดตัวไหนก็สามารถเลือกได้ แต่นโยบายยังคงดำเนินเหมือนเดิม คือ ให้ฉีดตั้งแต่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์เป็นต้น ก่อน 3 เดือนแรกยังไม่จำเป็นต้องฉีด และหลังจากฉีดแล้วส่วนน้อยจะมีอาการข้างเคียงเล็กน้อย คือ ปวดบริเวณฉีด อ่อนเพลีย ปวดหัว มีไข้ต่ำๆบางราย โดยสามารถมาฉีดได้ตลอดตั้งแต่เกิน 12 สัปดาห์ขึ้นไป แม้ต่หลังคลอดใหม่ๆ ก็สามารถฉีดได้ เพราะวัคซีนไม่ได้มีผลต่อน้ำนมแต่อย่างใด" นพ.เอกชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาหญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วจำนวนมากน้อยแค่ไหน นพ.เอกชัย กล่าวว่า  ที่ผ่านมาฉีดเข็มที่ 1 ไปประมาณกว่า 1 แสนกว่าราย ส่วนเข็มที่ 2 ฉีดแล้วประมาณ 8 หมื่นกว่าราย ขณะที่เข็มที่ 3 จะเป็นหลังคลอดไปแล้วและมาฉีดกระตุ้นประมาณ 4.2 พัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์สาธารณสุข  

เมื่อถามต่อว่าสรุปแล้วหญิงตั้งครรภ์สามารถเลือกวัคซีนได้ใช่หรือไม่ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า   เลือกวัคซีนได้แต่เป็นไปตามสูตรที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ เช่น เข็ม 1 เป็นไฟเซอร์ เข็ม 2 ก็ไฟเซอร์ หรือบางคนจะฉีดซิโนแวคก็ได้ มีอยู่เช่นกัน โดยสูตรที่ฉีดไขว้ทุกวันนี้ ทางราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยระบุว่า สามารถฉีดในหญิงตั้งครรภ์ได้

"ในปี 2565 ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งองค์การอนามัยโลก ยูนิเซฟ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และภาคเอกชน ในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ช่องทางต่างๆ เพื่อให้ความรู้แก่หญิงมีครรภ์และครอบครัวถึงประโยชน์ของวัคซีน และอันตรายที่จะเกิดขึ้นหากรับเชื้ออาจถึงขั้นเสียชีวิต  แต่หากรับวัคซีนจะผ่อนหนักเป็นเบาได้ ซึ่งวัคซีนมีความปลอดภัยขอให้เชื่อมั่น" นพ.เอกชัย กล่าว 

ทั้งนี้ ตั้งแต่การระบาดเดือนเม.ย. 2564 จนถึงวันนี้ประมาณกว่า 6 พันราย และในจำนวนนี้ประมาณ 90%ที่ติดเชื้อไม่ได้รับวัคซีน ทั้งรับไม่ครบโดส และไม่ได้รับ ส่วนคนท้องที่เสียชีวิตจนถึงวันนี้มี 104 ราย และเกือบทั้งหมดไม่ฉีดวัคซีน มีเพียง 2 รายที่เสียชีวิต แต่พบว่ามีการฉีดวัคซีนเพียงเข็มแรก และไม่นานมาก  ทำให้ภูมิคุ้มกันยังไม่ขึ้น

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org