ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะพ่อแม่ ผู้ปกครอง ดูแลเด็กเรียนออนไลน์อย่างใกล้ชิดและหมั่นสังเกตความผิดปกติในช่องปากของเด็ก ควรเลือกกินขนมอ่อนหวาน ไม่เหนียวติดฟัน เครื่องดื่มหวานน้อย และงดน้ำอัดลม เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีของเด็ก

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้สถานศึกษาในหลายพื้นที่มีการปรับรูปแบบการเรียนการสอน ทั้ง แบบ On Air, Online, On Demand, On Hand ผ่านทางไปรษณีย์ ปัจจุบันเด็กส่วนใหญ่ไม่ได้ไปโรงเรียน จึงทำให้ขณะเรียนหนังสือที่บ้านเด็กสามารถกินขนม เครื่องดื่มรสหวานได้ตลอดเวลา หากเด็กยังกินขนมบ่อยมากกว่า 2 ครั้งต่อวัน และแปรงฟันไม่สะอาด หรือมีพฤติกรรมการแปรงฟันลดลง โดยเฉพาะการแปรงฟันก่อนนอน ปัญหาฟันผุจากระยะเริ่มต้นที่เป็นเพียงเล็กน้อยก็จะลุกลามจนผุเป็นรูได้

จากผลการสำรวจของสำนักทันตสาธารณสุข ปี 2564 พบว่าเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บริโภคอาหารระหว่างมื้อเฉลี่ย 2.8 ครั้งต่อวัน เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บริโภคน้ำหวานและน้ำอัดลมเฉลี่ย 1.5 ครั้งต่อวัน เฉลี่ย 2.5 วันต่อสัปดาห์ บริโภคขนมเฉลี่ย 2.4 ห่อต่อวัน ลูกอม หมากฝรั่ง เฉลี่ย 1.5 เม็ดต่อวัน ในขณะที่การแปรงฟันคุณภาพ มีเพียงร้อยละ 34.3 สถานการณ์สภาวะสุขภาพช่องปากเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในปัจจุบันเด็กมากกว่าครึ่งพบปัญหาเสียวฟันเมื่อกินอาหารหวานหรือน้ำเย็น  มีรูผุที่ผิวฟัน และเด็กมีอาการปวดฟัน เคี้ยวอาหารไม่ได้ ร้อยละ 8.4

ทั้งนี้ ขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ดูแลสุขภาพช่องปากเด็กที่เรียน Online อย่างใกล้ชิด ดังนี้                    

  1. เลือกขนมที่เหมาะสม ควรเป็นขนมหวานน้อยและไม่เหนียวติดฟัน เลือกเครื่องดื่มหวานน้อย งดน้ำอัดลมและควรดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด
  2. ลดความถี่ในการบริโภคขนมไม่เกิน 2 ครั้งต่อวัน แนะนำให้กินขนมในมื้ออาหาร หรือกินขนมแล้วต้องแปรงฟัน
  3. แปรงฟันด้วยสูตร 2-2-2 แปรงฟันอย่างน้อย 2 นาที ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ เน้นแปรงฟันก่อนนอนพร้อมกันทั้งครอบครัว
  4. ตรวจความสะอาดหลังแปรงฟัน และความผิดปกติของฟันอย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติให้ไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษา