ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ดร.ภก.นรภัทร ปีสิริกานต์ รักษาการผู้อำนวยการกองผลิตวัคซีนจากไวรัส ฝ่ายชีววัตถุ องค์การเภสัชกรรม (อก.) กล่าวในการเสวนาออนไลน์ "โอไมครอน อัพเดทการพัฒนาวัคซีน การฉีดวัคซีนบูสเตอร์ โดส แนวทางการฉีดวัคซีนในเด็ก 5-11 ปี" ซึ่งจัดโดยสภาเภสัชกรรม ถึงแนวทางการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้เด็กอายุ 5-11 ปี ว่าขณะนี้ไฟเซอร์เป็นวัคซีนตัวเดียวที่ได้รับการอนุมัติ(Approve) แต่สิ่งที่ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ได้นำเสนอเพิ่มเติมคือให้การฉีดเข็ม 2 ห่างจากเข็ม 1 เป็นเวลา 8-12 สัปดาห์ จากปกติที่จะได้รับเข็มที่ 2 ในเวลา 3 สัปดาห์

ดร.ภก.นรภัทรกล่าวว่า คำถามเกี่ยวกับความกังวลใจผลข้างเคียงในการใช้วัคซีนสำหรับเด็กมีอยู่ 3 ประเด็นหลัก เจ็บปวดบริเวณที่แผล อ่อนเพลีย และปวดศรีษะ ซึ่งแทบจะไม่ต่างจากผู้ใหญ่เลย เป็นอาการทั่วไปที่พบมากที่สุด ส่วนเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบกลับพบน้อยมาก

“ในสหรัฐอเมริกามีเด็กได้รับวัคซีนมากกว่า 30 ล้านคนแล้ว พบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบน้อยกว่า 10 คน ส่วนของเด็กที่อายุ 12-18 ปี ซึ่งได้รับซิโนฟาร์มมาแล้ว 2 เข็ม หากอายุยังไม่เกิน 18 ปี ก็มีทางเลือกน้อยลงคือต้องฉีดไฟเซอร์ เพราะหากรับซิโนแวคเชื้อตายเข็มที่ 3 จะได้ผลไม่ค่อยดี" ดร.ภก.นรภัทร กล่าว

ด้าน ผศ.ดร.ภญ.รจพร วัชโรทยางกูร ผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพวัคซีน สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า เมื่อคิดถึงประโยชน์กับความเสี่ยงแล้ว อย่างไรก็คิดว่าการได้รับวัคซีนจะมีประโยชน์มากกว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 4 นั้น องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้มีการพูดถึงการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 สำหรับคนทั่วไป ในประเทศไทยที่มีการฉีดเข็มที่ 4 กันนั้น สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่ได้รับซิโนแวคมาก่อน 2 เข็ม เพื่อให้มั่นใจว่าภูมิต้านทานอยู่ในระดับที่สูงต้านโอไมครอนได้ แต่จริงๆ แล้วยังไม่ต้องถึงเข็ม 4 กัน