ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมอนามัย เผย ผลอนามัยโพล พบคนไทยยังคงวิตกกังวลหากมีการระบาดของโรคโควิด-19 คาดปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 สูงในช่วงตรุษจีน ย้ำ ปชช. เว้นระยะห่าง ป้องกันอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งลดการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ใช้ธูปสั้น เพื่อลดการเพิ่มปริมาณฝุ่น

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การเฝ้าระวังโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิด และปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 ที่คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ในช่วงวันที่ 25 - 26 มกราคม ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคกลาง ประชาชนจึงต้องเฝ้าระวังและป้องกันสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจอนามัยโพลวันที่ 15-21 มกราคม 2565 พบว่า คนไทยร้อยละ 65 ยังมีความกังวลหากมีการระบาดของโรคโควิด-19 และปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 สูง โดยเรื่องที่กังวลมากที่สุดคือ

  • กลัวติดเชื้อจากการไปจับจ่ายซื้อของวันไหว้ในตลาด ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต ร้อยละ 51.8
  • รองลงมาคือ กลัวการติดเชื้อจากการรวมญาติที่บ้านหรือสถานที่พักอาศัย ร้อยละ 42
  • ห่วงผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง อาจติดเชื้อได้ง่าย มีอาการรุนแรงร้อยละ 41.2
  • ขณะที่ร้อยละ 35 ไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากมีการป้องกันตนเองอย่างดีแล้ว ร้อยละ 71.9
  • รู้สึกชินกับสถานการณ์ ร้อยละ 33.3 และได้รับวัคซีนครบแล้วตามเกณฑ์ ร้อยละ 29.7

นอกจากนี้ ผลสำรวจอนามัยโพลยังพบว่า หากมีการระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์ปัญหาฝุ่น PM2.5 ประชาชนร้อยละ 85.3 จะป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากป้องกันเมื่อไปที่สาธารณะ ร้อยละ 72.5 ล้างมือบ่อย ๆ และ ร้อยละ 64.3 ติดตามสถานการณ์ฝุ่น และการระบาดของโรคเป็นระยะ ๆ

​“ทั้งนี้ ประชาชนที่มีกิจกรรมช่วงวันตรุษจีน เช่น จับจ่ายซื้อของในวันไหว้ ทั้งในตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาเก็ต หรือมีการรวมญาติไหว้บรรพบุรุษ รวมถึงการกินอาหารร่วมกันภายในครอบครัว ขอให้ปฏิบัติตามหลัก UP (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดและการแพร่ของโรคโควิด-19

โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคประจำตัว ควรให้ความระมัดระวังและดูแลเป็นพิเศษ พร้อมทั้งให้ร่วมกันลดปริมาณการเกิดฝุ่น PM2.5 โดยไม่เผากระดาษเงิน กระดาษทอง ไม่เผาขยะ ใช้ธูปสั้น หรือเปลี่ยนไปใช้ธูปไฟฟ้าแทน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว