ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคเผยสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพปี 64 พร้อมพยากรณ์โรคมาแรงระบาดอีกปี 2565 โควิดคาดการณ์ลดลงครึ่งปีหลัง แต่ต้องไม่กลายพันธุ์อย่างมีนัยสำคัญ ส่วน "ไข้เลือดออก" เป็นโรคต้องจับตามองปีนี้ ระบาดอีกครั้ง เหตุครบวงจรโรค

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4  ก.พ.  2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงการพยากรณ์โรคในปี 2565 ว่า  โรคภัยไข้เจ็บ ภัยสุขภาพ ยังมีภัยอื่นๆที่คุกคามคนไทย โดยในปี 2564 สถานการณ์โรคที่ผ่านมานั้น ยกตัวอย่าง 3 โรคแรก คือ  โรคไข้มาลาเรีย  ซึ่งโรคนี้เป็นปัญหาสาธารณสุขของไทยมานาน โรคเท้าช้าง ไม่พบมานานแล้ว รวมถึงโรคเรื้อน ซึ่ง 3 โรคนี้เป็นโรคสำคัญในอดีต จากการดำเนินการควบคุมโรคมาหลายปี ทำให้ป่วยน้อยลง และระยะหลังไม่พบผู้เสียชีวิต จากเดิมป่วยหลายหมื่นหลายแสนราย  อย่างมาลาเรีย ป่วย 2,893 ราย โดย 3 โรคนี้อยู่ในสถานะที่จะกำจัดให้หมดไปจากประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังมีโรคที่สำคัญมาตลอด คือ ไข้เลือดออกเด็งกี บางปีมีผู้ป่วยเป็นแสนคน แต่ปีที่แล้วไข้เลือดออกต่ำมากในรอบหลายสิบปี มีผู้ป่วยรายงานเพียง 9,956 ราย เสียชีวิต 6 ราย  โรคไข้เลือดออกปี 64  เป็นอีกปีที่ป่วยต่ำมาก เพราะแทบทุกปีเมื่อไข้เลือดออกระบาดจะมีเด็กเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้ไข้เลือดออกดีขึ้น อาจมาจากกิจกรรมออกนอกบ้านลดลง อยู่ในบ้านเยอะ ทำให้การกำจัดแหล่งรังโรคมากขึ้น  ส่วนโรควัณโรค องค์การอนามัยโลกจัดให้ไทยมีความชุกของวัณโรคสูง แต่ปีที่ผ่านมาควบคุมสถานการณ์ได้ดีมีป่วย 105,000 ราย เสียชีวิต 1 หมื่นราย ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกได้จัดให้ไทยพ้นจากปัญหานี้แล้ว

"สำหรับโควิด19 ปี 2564 ป่วย 2,216,551 ราย  ซึ่งเมื่อเทียบหลายๆประเทศแล้ว สถานการณ์ของเราดีกว่ามาก แต่ก็ถือว่ารุนแรงอยู่ในปี 64 โดยมีผู้เสียชีวิต 21,637 ราย แต่หลังจากมีความร่วมมือฉีดวัคซีน คิดว่าสถานการณ์ปีนี้จะดีขึ้น   ส่วนไข้หวัดใหญ่ แต่ละปีจะมีผู้ป่วยแสนกว่าราย โดยปีที่ผ่านมาถือว่าป่วยต่ำมาก มีรายงานป่วย 10,698 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีอุบัติเหตุจราจร เสียชีวิต 12,376 ราย เด็กจมน้ำ 560 ราย ซึ่งถือว่าอุบัติการณ์ลดลงเช่นกัน" อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

*** ทั้งนี้ สำหรับการพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพปี 2565  คือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก อุบัติเหตุทางถนน ตกน้ำจมน้ำ และโรคจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน(PM2.5)  

1.โรคโควิด19 หากไม่มีสายพันธุ์อื่นเพิ่มเติม คาดว่าครึ่งปีหลัง จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุจากคนไทยฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามเป้าหมาย ขณะนี้ฉีดไปได้ประมาณ 20% ส่วนเข็ม 2 อย่างไรก็ถึงเป้าหมายแน่นอน หากทำได้จะควบคุมสถานการณ์การติดเชื้อรายใหม่ได้ แต่ต้องไม่มีการกลายพันธุ์ที่มีนัยสำคัญเพิ่มเติม หากมีการกลายพันธุ์หรือเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นก็จะมีการพยากรณ์โรคขึ้นหรือทำแบบจำลองการระบาดอีก

 

2.โรคไข้หวัดใหญ่ ปี 65 คาดว่าจะป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เป็น 22,817 ราย ในช่วงฤดูฝน ปลายฝนต้นหนาว แต่เราพบว่าการใส่หน้ากากอนามัย นอกจากป้องกันโควิด ยังป้องกันไข้หวัดธรรมดา และไข้หวัดใหญ่ ซึ่งต้นปีการใส่หน้ากากอนามัยคนไทยยังดีอยู่ แต่ปลายปีหากใส่หน้ากากอนามัยลดลง การระบาดก็อาจเพิ่มขึ้นได้

3.โรคไข้เลือดออก ในปี 2565 จะระบาดเพิ่มขึ้น โดยผู้ป่วยจะมีประมาณ 85,000 ราย ด้วยเหตุผลว่า ปกติไข้เลือดออกจะระบาดปีเว้นปี หรือปีเว้น 2 ปี ซึ่งตอนนี้ถึงวงจรต้องระบาดรอบใหม่ เนื่องจากภูมิคุ้มกันของคนไทย 2 ปีที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อน้อย ภูมิฯ จะน้อย และกิจกรรมทางสังคมจะเพิ่มขึ้น และจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มสูงในเดือน มิ.ย.-ส.ค. 2565 และจะพบป่วยมากที่สุดสุดในเดือน ก.ค. จำนวน 13,769 ราย ดังนั้น การรณรงค์ไข้เลือดออกต้องเริ่มตั้งแต่บัดนี้ 

"ขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากไข้เลือดออกรายแรกของไทยในปี 2565 แล้ว ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ โดยระยะหลังพบป่วยที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อย่างรายนี้เป็นผู้หญิงอายุ 38 ปี ที่เสียชีวิตเพราะเรามัวแต่ห่วงโควิด เมื่อมีไข้มาคิดว่า เป็นโควิด ลืมนึกไข้เลือดออก และไปซื้อยาแก้ปวดกลุ่มเอ็นเสด(NSAIDs) ซึ่งไข้เลือดออกห้ามกินยาแก้ปวด พวกแอสไพริน เอ็นเสด เพราะจะทำให้เลือดออกทางเดินอาหาร เรื่องนี้จึงมาย้ำเตือน และต้องรณรงค์อย่างต่อเนื่อง" อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

4.ส่วนอุบัติเหตุทางถนน ปี 2564 ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนค่อนข้างน้อย แต่ปี 2565 จะมากขึ้น โดยอยู่ระดับ 1.7 หมื่น หรือ 2 หมื่น หรือมากกว่านั้น ดังนั้น มาตรการการรณรงค์ การบังคับใช้กฎหมาย การร่วมมือกันปฏิบัติตามวินัยจราจรจะช่วยได้  ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าผู้เสียชีวิตสูงสุดจะอยู่เดือนมี.ค. และธ.ค.

5.เด็กจมน้ำ ในปี 2564 พบรายงานเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีน้อยลง จากเดิมปีละ 1 พันกว่าราย แต่ปีที่ผ่านมา 500 กว่าราย เหตุผลเพราะเมื่อมีโควิด19 เด็กอยู่บ้านมากขึ้น ไม่มีการชวนไปเล่นน้ำ ทำให้ตัวเลขตกน้ำ จมน้ำลดลง อย่างไรก็ตาม ปี 2565 โรงเรียนจะเปิดออนไซต์มากขึ้น มีกิจกรรมต่างๆมากขึ้น จึงคาดการณ์ว่าเดือน มี.ค. และเม.ย. จะมีเด็กตกน้ำ จมน้ำมากขึ้น จึงต้องแจ้งเตือนเรื่องนี้

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org