ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประธานกมธ.สาธารณสุข ห่วงปมถ่ายโอนจนท.สาธารณสุขกว่า 2 หมื่นคนไปอบจ. ยังไม่ชัดไปกี่คน เหตุต้องรอลายเซนเจ้าตัวคอนเฟิร์มนำส่ง อกพ.สาธารณสุข ส่วนสัญญาว่าจะให้ C8 C9 พร้อมบุคคลากรการแพทย์อื่นมาช่วยงาน เป็นไปได้ยาก เพราะงบบุคคลากรติดเงื่อน 40%ของงบรายจ่ายประจำปี เป็นข้อบังคับของท้องถิ่น 
 

หลังจากเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)  ซึ่งมีทั้งกลุ่มสนับสนุน และกลุ่มห่วงใย เนื่องจากกังวลว่า ระบบมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน เหตุเพราะการกระจายอำนาจด้วยการถ่ายโอนครั้งนี้ เป็นการกระจายอำนาจที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายระบบสาธารณสุข

ล่าสุดวันที่ 14 ก.พ.2565  นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข (กมธ.สาธารณสุข) วุฒิสภา ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติม ภายหลังจากให้สัมภาษณ์พิเศษ Hfocus ประเด็นข้อห่วงใยมาก่อนหน้านี้ (ข่าวเกี่ยวข้อง : "ถ่ายโอน รพ.สต.ไปท้องถิ่น" การกระจายอำนาจที่โยงใยระบบสาธารณสุข คน การส่งต่อ การรักษาพยาบาล)

โดยโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า  การถ่ายโอนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกว่า 20,000 คนไป อบจ.ยังไม่รู้ว่าไปจริงกี่คน เพราะต้องรอลายเซ็นเจ้าตัวพร้อมเลขที่บุคคลากรนำส่ง อกพ. กระทรวงสาธารณสุข ก่อน

ส่วนสัญญาว่าจะให้ C8 C9 พร้อมบุคคลากรการแพทย์อื่นมาช่วยงาน เป็นไปได้ยาก เพราะงบบุคลากรติดเงื่อน 40%ของงบรายจ่ายประจำปีตามมาตรา 35 ของพรบ.ระเบียบบริหารราชการส่วนทัองถิ่น2542 การบอกว่าไม่นับเงินเดือนบุคลากรถ่ายโอนมารวมกับ 40%นั้นเป็นจริงเฉพาะปีแรกที่ได้ตั้งงบประมาณไว้แล้วที่สธ. ปีต่อไป จะต้องเอามารวมเช่นเดียวกับตำแหน่งว่างแทนบุคคลากรที่ไม่ได้ย้ายมา 

ถ้าอบจ.ไปจ้างบุคคลากรใหม่มาแทน นอกจากต้องใช้เวลาฝึกงานใหม่แล้วต้องเอามาคิดใน 40%ด้วย ไม่จ้างก็ไม่ได้เพราะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 55 ที่จะต้องให้บริการสาธารณสุข (ส่งเสริม ป้องกัน รักษาและฟื้นฟู)ให้มีคุณภาพและมาตรฐานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรักษาพยาบาลที่ไม่ใช่การรักษาอย่างง่าย เพราะต้องทำตาม พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ.2562  

ย้ายเขามาแล้วอบจ.ต้องรับผิดชอบต่อ ปชช. นอกจากนี้การจะเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นก็ต้องคิดถึง 40%ด้วย  ในการถ่ายโอนเรื่องอื่นที่ผ่านมา ท้องถิ่นใช้วิธีตั้งงบประมาณหมวดอุดหนุนทั่วไปสำหรับบุคคลากรที่ถ่ายโอน ขอสำนักงบประมาณโดยไม่ชักเนื้อตัวเอง ปี65ได้รับมาถึง  507 ล้านบาท  แต่จะต้องใช้เวลาเกือบ 2 ปีตามวิธีการงบประมาณ

"ปัจจุบันทุกอบจ.จ้างคนเต็มเพดาน 40%แทบทุกแห่ง ไม่นับ 20%ของฝ่ายบริหารที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น  และแม้จะตั้งงบในหมวดอุดหนุนทั่วไปได้ก็ยังคงติด40%อยู่ดี จะขอยกเว้น40%เพื่อรับถ่ายโอนรพ.สต. ทำไม่ได้  ถ้าจะทำต้องแก้กฎหมาย" นพ.เจตน์ กล่าว

ข่าวเกี่ยวข้อง

-"หมอเจตน์" ส่งหนังสือถึงนายกฯ ขอยับยั้งถ่ายโอน รพ.สต.

-ชมรม รพ.สต.-สมาคม อบจ. ขอเร่งรัดถ่ายโอนสาธารณสุขไปท้องถิ่น (ชมคลิป)

-อัปเดต! “เครือข่ายสาธารณสุขไทยฯ” ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ขอชะลอการถ่ายโอนรพ.สต. ไป อบจ.

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org