ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคเผยผู้สูงอายุอีก 2.2 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด  เร่งเดินหน้าให้ทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนมีทะเบียนผู้สูงอายุอยู่  ต้องบูรณาการข้อมูลสร้างแรงจูงใจ กระตุ้นฉีดวัคซีนโควิด หากช่วยกันคาด 1-2 เดือนนี้ตัวเลขสูงอายุรับวัคซีนจะเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ฉีดวัคซีนโควิด19 ว่า ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนสะสมกว่า 122 ล้านโดส   มี 19.6 ล้านได้รับเข็มกระตุ้น จำเป็นต้องเร่งฉีดกระตุ้น เพราะขณะนี้มีการระบาดมากขึ้น โดยเฉพาะวัยทำงาน ไปสถานบันเทิง สถานที่เสี่ยง และแพร่ต่อชุมชน ครัวเรือน ช่วงการระบาดโอมิครอนในเดือน ม.ค.65 เป็นต้นมา กลุ่มติดเชื้อสูงสุด คือ  20-29ปีตามด้วยกลุ่ม 30-39 ปี และกลุ่มที่มาแรงช่วงนี้ คือ วัยเด็ก 0-19 ปี ติดมากขึ้นกว่าช่วงเดลตา ผู้สูงอายุติดเชื้อต่ำในช่วงนี้เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น แต่เสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตมากสุด แต่ป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน
 
นพ.โสภณ กล่าวว่า ข้อมูลที่กรมควบคุมโรคสำรวจวันที่ 1 ม.ค.- 18 ก.พ. 2565  ในคนเสียชีวิตที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปจำนวน 666 คน คิดเป็นร้อยละ 82 ของผู้เสียชีวิตทุกกลุ่มวัย พบร้อยละ 58 ไม่ได้ฉีดวัคซีน  มีประวัติรับวัคซีน 1 เข็มร้อยละ 10  และกลุ่มที่รับวัคซีน 2 เข็มมีร้อยละ 30  ส่วนที่รับวัคซีน 3 เข็มขึ้นไปมีร้อยละ 2 จึงจำเป็นต้องเร่งรัดการฉีดโดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ฉีด รวมถึงการให้วัคซีนเข็มกระตุ้น 

"ในภาพรวมขณะนี้ยังมีผู้สูงอายุ 2.2 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน..." นพ.โสภณ กล่าว

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า ในจำนวนผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับวัคซีน 2.2 ล้านคน พบว่าเสียชีวิต  666 คน แยกได้ดังนี้  ไม่ได้รับวัคซีนจำนวน  387 คน   คิดเป็นอัตราเสียชีวิต 178 คนต่อล้านคน  ส่วนผู้สูงอายุได้รับวัคซีน 1 เข็มมีจำนวน 6 แสนคน เสียชีวิต 66 คน คิดเป็นอัตราเสียชีวิต 112 คนต่อล้านคน ผู้สูงอายุรับวัคซีน 2 เข็มจำนวน 6.2 ล้านคน เสียชีวิต 197 คน คิดเป็นอัตราเสียชีวิต 32 คนต่อล้านคน  ลดลงถึง 6 เท่า และผู้สูงอายุรับวัคซีน 3 เข็มจำนวน 3.7 ล้านคน เสียชีวิต 16 คน คิดเป็นอัตราเสียชีวิต 4 คนต่อล้านคน ลดลงถึง 41 เท่าเมื่อเทียบคนที่ไม่รับ ดังนั้น การฉีดวัคซีนจึงได้ผล เป็นหัวใจควบคุมไม่ก่อให้เสียชีวิตสูงขึ้น
 
นพ.โสภณ กล่าวด้วยว่า ต้องเร่งค้นหาผู้สูงอายุที่ไม่ฉีดอีก 2.2 ล้านคน  ทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนมีทะเบียนผู้สูงอายุอยู่  ต้องบูรณาการข้อมูลเร่งค้นหา ออกไปให้ความรู้ สร้างแรงจูงใจ กระตุ้นและนำมาฉีด  หากช่วยกันช่วง 1-2 เดือนนี้จะทำให้ผู้สูงอายุได้รับวัคซีนสูงขึ้น เป็นเกราะป้องกันผู้สูงอายุช่วงเทศกาลสงกรานต์รวมถึงช่วงปิดเทอม หากลูกหลานไปเยี่ยมจะได้ปลอดภัยมากขึ้น  ในส่วนของเด็กแม้ป่วยมากแต่โอกาสเสียชีวิตน้อย แต่วัยประถม 5-11 ปี ใกล้ชิดผู่ย่าตายายผู้สูงอายุ หากเร่งฉีดจะเป็นเกราะป้อกันผู้สูงอายุอีกทาง และลดโอกาสการระบาดในโรงเรียน ซึ่งขณะนี้มีเด็กนักเรียนที่ฉีดไปแล้ว 10% จากเป้าหมาย 5 ล้านคน

 

ข่าวเกี่ยวข้อง : 

กรมการแพทย์ชี้ไม่ใช่ผู้ป่วยโควิดทุกรายกิน "ฟาวิพิราเวียร์" ได้ เสี่ยงเกิดผลข้างเคียง

สัปดาห์หน้า! คลอดแผนโควิดเข้าสู่โรคประจำถิ่น – เร่งทำงานเชิงรุกรายบ้านหากลุ่ม 608 ฉีดวัคซีนเข็ม 3

สธ.ชูกลยุทธ์ประเมินโอมิครอนทุก 14 วัน เน้นจับตา "ผู้ป่วยปอดอักเสบ-ผู้เสียชีวิต"

เปิดหนังสือ สธ.ส่งถึง คปภ. ยืนยันกำหนดคนติดเชื้อโควิดรักษา HI นับเป็น “ผู้ป่วยใน” เคลมประกันได้

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org