ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมการแพทย์เผยกลุ่ม 608  หากป่วยโควิด จัดเป็นกลุ่มสีเหลือง สามารถรักษาได้ตามเกณฑ์  UCEP Plus  ย้ำ! รพ.ปฏิเสธการรักษาไม่ได้ หากเตียงเต็มจริง ต้องประสานเครือข่ายจัดหาเตียงให้คนไข้ เว้นกรณีหากแพทย์วินิจฉัยแล้วไม่มีความเสี่ยง ให้พิจารณาประเมินร่วมกับผู้ป่วยได้ หากอัตราครองเตียงเกิน 80% ขอให้ขยายเตียงได้ในแต่ละพื้นที่

 

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2565  ที่กรมการแพทย์  นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงการดูแลรักษาโควิด 19 กลุ่มเสี่ยง 608 ว่า ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การติดเชื้อค่อนข้างมาก อย่างการตรวจ ATK มีจำนวนมากกว่าที่รายงาน เนื่องจากบางรายตรวจเชื้อเอง และไม่ได้ติดต่อเข้าสถานพยาบาล อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิตเป็นตัวเลขที่เราจับตามอง  เนื่องจากตัวเลขผู้เสียชีวิตยังพบในกลุ่ม 608 ผู้สูงอายุมาก จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวัง และเร่งให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในกลุ่มนี้

“ล่าสุดนายกรัฐมนตรีระบุว่า กลุ่ม 608  เมื่อป่วยโควิดขอให้ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นไปทางเกณฑ์  UCEP Plus ให้ถือว่าเป็นกลุ่มสีเหลือง สามารถรักษาได้ทุกรพ. ทุกสิทธิ ทางรพ.ไม่มีสิทธิปฏิเสธคนไข้ หากปฏิเสธ ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) จะเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ในส่วนเอกชน” นพ.สมศักดิ์ กล่าว และว่า โดยกลุ่ม 608 ประกอบด้วย ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคอ้วน หรือน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม  ส่วนกลุ่มสีแดงก็สามารถเข้าได้ตามสิทธิยูเซปพลัสอยู่แล้ว

 

 นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์การใช้เตียงของประเทศ ทั้ง 13 เขตสุขภาพ ในกลุ่มอาการระดับ 2.1 และ ระดับ 2.2  ยังมีอัตราเตียงเพียงพอ โดยระดับเตียง 2.1 มีอัตราครองเตียงอยู่ที่ 29.9%  และระดับ 2.2 มีอัตราครองเตียง 21.9%   ดังนั้น ในระดับเขตสุขภาพยังมีเตียงเพียงพอ ส่วนในรายจังหวัดที่มีการระบาดมาก 10 จังหวัดนั้น มีบางจังหวัดที่อาการระดับ 2.1 และ 2.2 ที่อยู่ในระดับสีเหลืองมีผู้ครองเตียงระดับ 2.1 ในอัตรา 59.47%    ส่วนระดับ 2.2 อยู่ที่ 66.67%  และระดับ 3 อยู่ที่ 92.31 จึงเสนอสป.ไปว่าขอให้เตรียมเตียงเพิ่มกับภาคีเครือข่าย  โดยหากพื้นที่ไหนอัตราครองเตียงระดับ 2 .1 และ 2.2 ขึ้นไปเกิน 80% ก็สามารถขยายเพิ่มเติมได้ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่เครือข่ายหารือร่วมกัน  

“ขอย้ำว่า กลุ่ม 608 ที่ติดโควิด ควรเขารับการรักษาในรพ.ตามเกณฑ์ยูเซปพลัส ขอความร่รวมมือภาคีเครือข่ายรับผู้ป่วยตามเกณฑ์ UCEP plus “ นพ.สมศักดิ์ กล่าว 

เมื่อถามว่ากรณีผู้ป่วย 608 ป่วยโควิดแต่ไปรพ. กลับพบว่าไม่ให้เข้ารักษา เนื่องจากทางรพ.มองว่าไม่มีอาการ แข็งแรงดี ทั้งๆที่บางรายมีโรคประจำตัว นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า จริงๆตามเกณฑ์ยูเซปพลัส กลุ่มสีเหลืองเข้ารับการรักษาในรพ.ได้ ซึ่งกลุ่ม 608 เป็นกลุ่มมีความเสี่ยงที่จะป่วยหนักและเสียชีวิต แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของแพทย์ว่า สามารถรักษาในรพ.ได้หรือไม่ หรือสามารถรักษาที่บ้าน เพราะบางรายอาการแข็งแรง แม้ป่วยโควิดและไม่อยากนอนรพ. จึงขอให้แพทย์ร่วมประเมินกับคนไข้ว่า มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน อย่างไร   ทั้งนี้ โดยหลักรพ.ปฎิเสธไม่ได้ หากเป็นไปตามเกณฑ์ยูเซปพลัส  แต่หากเตียงเต็มก็ต้องประสานเครือข่ายในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีรพ.รับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวระดับ 1 ให้ครองเตียงในรพ. จะมีการกำชับให้รับเฉพาะกลุ่มสีเหลืองหรือไม่ เพราะอาจส่งผลเตียงไม่พอในอนาคตหรือไม่ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า  จริงๆทางการแพทย์หากไม่มีข้อบ่งชี้ว่าต้องนอน รพ. ก็ควรรักษาที่บ้านได้ เพียงแต่มีเรื่องประกันเข้ามา ซึ่งก็เข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน แต่ขอย้ำว่า คนไข้สีเขียวไม่ต้องนอนรพ. 

นพ.วีรวุฒิ  อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้เด็กเล็กติดโควิดและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น และท่านนายกฯ เป็นห่วงกลุ่มนี้เช่นกัน จึงถือเป็นอีกกลุ่มเสี่ยงที่ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล จึงขอให้โรงพยาบาลทุกแห่งรับเด็กเล็กที่ป่วยโควิดไว้ในสถานพยาบาล เพื่อดูอาการ

 

 

 

 

 

 

 *สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org