ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองนายกฯ-รมว.สธ. ขอบคุณบุคลากรดูแลประชาชน ท่านเสียสละ ทำงาน สงกรานต์  ขอให้ประชาชน โปรดให้ความร่วมมือระวังตนเองจากโควิด-19 ถือเป็นการให้กำลังใจคนทำงาน

 

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หลังเทศกาลสงกรานต์ ว่า ธรรมชาติของโรค เชื้อจะติดอยู่กับคน และจะแพร่จากคนสู่คน ซึ่งช่วงสงกรานต์ ประชาชน ต้องกลับภูมิลำเนา ซึ่งเราไม่ได้ห้าม เพราะเข้าใจว่าเป็นประเพณีของคนไทย โดยเราประเมินว่ายอดผู้ติดเชื้อจะขยับขึ้นแน่นอน แต่เพราะสายพันธุ์โอมิครอน มีความรุนแรงต่ำกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ เท่ากับแม้จะติดเชื้อ แต่จำนวนผู้ป่วยหนักถึงเสียชีวิต ลดน้อยลง ส่วนสำคัญ เพราะการให้บริการวัคซีน รวมไปถึงความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนด้วย ส่วนกลุ่มที่เสียชีวิต คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง และไม่ได้รับวัคซีน ตามเกณของ สธ. แนะนำ ซึ่งเราพยายามแก้ปัญหา ด้วยการเร่งฉีดวัคซีนเชิงรุกให้ได้มากที่สุด

 

ช่วงสงกรานต์ ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ. ) ไปจนถึงโรงพยาบาล เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ ที่อาจจะเกิดขึ้น  ไม่ใช่แค่การรักษาโควิด-19 แต่ยังหมายถึงเรื่องอุบัติเหตุและโรคอื่นๆ ด้วย เรายังให้ความมั่นใจว่า  ระบบสุขภาพของไทย มีความพร้อม  ทั้งยังให้การรณรงค์เรื่องการรับเข็มบูสเตอร์อย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้ มีกลุ่มที่ปฏิเสธการรับวัคซีน ซึ่งเราต้องหาทางนำเขาเข้ามาฉีดให้ได้ โดยในช่วงสงกรานต์ เป็นวันหยุดยาว เราก็ยังให้บริการวัคซีน ขอให้ลูกหลานที่กลับไปเยี่ยมภูมิลำเนา ได้พาผู้สูงอายุ มารับวัคซีน  เราไม่อยากเห็นการป่วยหนัก เราไม่อยากเห็นการเสียชีวิต แต่ถ้าติดเชื้อ แล้วอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ก็ต้องได้รับการรักษา เราต้องพร้อมทั้งสถานที่ ยา แพทย์ บุคลากร

 

"ต้องขอบคุณบุคลากรทุกท่าน ที่ดูแลประชาชน หลายท่านเสียสละ ทำงาน ไม่ได้กลับบ้าน ขอให้ประชาชน โปรดให้ความร่วมมือในการช่วยกันระมัดระวังตนเองจากโควิด-19 ถือเป็นการให้กำลังใจคนทำงาน" นายอนุทิน กล่าว 

 

เรื่องการเปิดประเทศ เราต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาระบบเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบมามาก ต้องหาทางเข้าไปช่วยเหลือ หาช่องทางให้คนได้ทำมาหากิน จะเห็นว่าเราฉีดวัคซัน ให้แรงงาน พนักงาน ข้าราชการ คนทั่วไป เราพยายามฉีดให้ครบถ้วน ถึงเวลาที่ต้องคลายล็อก อย่างเหมาะสม เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้ปรับเป็นร้านอาหาร แต่ขอให้เคารพกฎหมายเช่นกัน  เราอยากให้คนกลับมาใช้ชีวิต เราตระหนักถึงเรื่องความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ แต่ต้องอยู่บนจุดที่เหมาะสม เมื่อมีปัญหา จะต้องเข้าไปจัดการได้ ตอนนี้ เราจะต้องใช้ชีวิตกันแบบ NEW NORMAL การที่เรายังได้รับการจัดลำดับ เรื่องความมั่นคง ด้านการให้บริการด้านสาธารณสุขอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก ส่งผลให้ต่างชาติ ยังเชื่อมั่นในประเทศไทย  ที่สำคัญเราได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน

 

การไปสู่ความเป็นโรคประจำถิ่น ได้พยายามเดินทางไปถึงจุดนั้นตลอด ภายใต้เป้าหมายเรื่องการกดยอดผู้ป่วยหนัก การลดยอดผู้เสียชีวิต และเศรษฐกิจต้องเดินได้ด้วย สำหรับตน สำหรับแพทย์ เราไม่อย่ากให้ใครติดเชื้อเลย จริงๆ ทำได้ด้วยการล็อกดาวน์ แต่มีผลเสียมหาศาลตามมา ต้องหาทางออก เพื่อให้ทุกส่วนไปด้วยกันได้ จุดแข็งของไทยคือระบบสุขภาพไทยยังเข้มแข็ง ที่ผ่านมา ระบบที่เกิดขึ้น เรามีองค์คณะในการตัดสินใจ ประกอบไปด้วยทุกภาคส่วนมาประเมิน ใช้วีชาการมาช่วยคิด ใช้ประสบการณ์ทางการแพทย์มาช่วยพิจารณา การเลือกแนวทาง ไม่ได้มาจากคน คนเดียว 

 

“ทุกการเสียชีวิต ทางรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข เราเสียใจมาก ตอนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีเดลต้าเข้ามา และวัคซีน ยังไม่คงที่ เราเอาผู้ป่วยเข้าระบบทุกคน ไม่สนใจเรื่องอาการ จะสีไหน หนัก เบา ต้องได้เข้าโรงพยาบาล ตั้งโรงพยาบาลบุษราคัม ตั้งโรงพยาบาลสนามมากมาย แต่รายงานความสูญเสีย ก็ยังเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดเลย เราทุกคนเสียใจ ที่ผ่านมา การทำงาน มันต้องใช้การสนับสนุน  ต้องขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธื จันทร์โอชา ที่ช่วยเหลือมาตลอด และต้องขอบคุณบุคลากรการแพทย์ทุกท่านที่ มีความตั้งใจแน่วแน่ จนกระทั่งเราสามารถก้าวข้ามวิกฤติกันมาได้”