ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.ชี้แจง “ฝังยาคุมกำเนิด” เป็นสิทธิประโยชน์ฟรีสำหรับหญิงไทยตามกลุ่มเป้าหมายทุกสิทธิการรักษา  การรับบริการต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์กำหนด พร้อมประสานปรับเพิ่มข้อความ “แอปเป๋าตัง” เพื่อขยายความชัดเจนการเข้ารับบริการนี้

วันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวบนสื่อออนไลน์ที่ตั้งข้อสังเกตการเข้ารับบริการฝังยาคุมกำเนิด ฟรี สิทธิประโยชน์บริการคุมกำเนิดถาวร ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” นั้น สปสช.ขอเรียนชี้แจงว่าบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวรเป็นบริการภายใต้กองทุนบัตรทอง นอกจากบริการใส่ห่วงอนามัยแล้ว ยังรวมถึงบริการฝังยาคุมกำเนิด รวมถึงลดการเสียชีวิตและภาวะแทรกซ้อนจากการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัยโดยกำหนดหลักเกณฑ์การรับบริการดังนี้ 

• กลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ต้องการคุมกำเนิด หรืออยู่ในภาวะหลังคลอด หรือหลังแท้ง 
• กลุ่มอายุ 20 ปีขึ้นไป เฉพาะกรณีหลังยุติการตั้งครรภ์ 
โดยสามารถเข้ารับบริการบริการที่หน่วยบริการระบบบัตรทองหรือระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ร่วมบริการตามความสะดวกได้

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า การบริการฝังยาคุมกำเนิด สปสช.ได้จัดสรรงบประมาณรองรับบริการให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายทุกสิทธิการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงบริการใส่ห่วงอนามัย ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่จำนวน 103.21 ล้านบาท กำหนดเหมาจ่ายบริการฝังยาคุมกำเนิดในอัตรา 2,500 บาทต่อราย โดยในช่วง 6 เดือน ปีงบให้บริการแล้วจำนวน 10,439 ราย เบิกจ่ายค่าบริการจำนวน 39,871,800 บาท แยกเป็นบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวรทั้งบริการฝังยาคุมกำเนิดและบริการใส่ห่วง ในหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 9,280 ราย เบิกจ่ายค่าบริการ จำนวน 36,987,900 บาท และในหญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป กรณีหลังยุติตั้งครรภ์ จำนวน 1,159 ราย เบิกจ่ายค่าบริการ จำนวน 2,883,900 บาท 

 

อย่างไรก็ตามการเข้ารับบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวรจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์บริการ ซึ่งในกรณีผู้หญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี จะครอบคลุมทุกคนที่ต้องการรับบริการ แต่กรณีอายุ 20 ปีขึ้นไป กำหนดให้สิทธิเฉพาะผู้ที่ยุติการตั้งครรภ์เท่านั้น สำหรับเสียงสะท้อนจากประชาชนที่ได้รับมานี้ สปสช.ยินดีรับฟังและนำมาปรับปรุง โดยในส่วนของแอปเป๋าตัง สปสช.ได้มีประสานไปยังธนาคารกรุงไทยเพื่อเพิ่มเติมข้อความที่ระบุว่า “กรณีอายุเกิน 20 ปีให้อยู่ในดุลพินิจของแพทย์” เพื่อขยายความให้ชัดเจนในการเข้ารับบริการ และ สปสช.จะเร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจต่อไป 

ทั้งนี้บริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคในแอปเป๋าตังนั้น ประชาชนทุกคนสามารถตรวจสอบสิทธิที่ท่านจะได้รับตามกลุ่มวัยและเพศของท่านได้ โดยเข้าไปที่กระเป๋าสุขภาพ เมื่อลงทะเบียนแล้วจะปรากฏรายละเอียดสิทธิการรักษาพยาบาลของท่าน และสามารถตรวจสอบสิทธิบริการสร้างเสริมสุขภาพที่ท่านได้รับได้ เฉพาะในพื้นที่ กทม.ขณะนี้นำร่องสามารถจองคิวนัดหมายเข้ารับบริการที่หน่วยบริการได้ 

สอบถามเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทอง ได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. (ไลน์ไอดี @nhso) หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand