ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมวิชาการเกษตรพัฒนาต้นกล้า "กัญชา กัญชง"  1 ล้านต้นแจกปชช. ปลูกครัวเรือน แต่ต้องขึ้นทะเบียนผ่านท้องถิ่น จ่อใช้แอปฯ สธ.พัฒนาติดตามคนปลูก คนใช้ทางที่ถูก ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข พิจารณากฎหมายควบคุม มีหลายพรบ. มาใช้คุมคนใช้ทางที่ผิด สันทนาการ ระหว่างรอกฎหมายใหญ่หลัง 9 มิ.ย.65

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มีการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการใช้ประโยชน์กัญชา กัญชงในครัวเรือนทางการแพทย์และศึกษาวิจัย ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 

โดยนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า  กระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการลงนามในการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด มีผลในวันที่ 9 มิ.ย.2565 จะทำให้กัญชาพ้นจากยาเสพติด ประชาชนก็จะเข้าถึงได้ตั้งแต่ต้นน้ำ ซึ่งหลังจากพ้นวันที่ 9 มิ.ย. ทางกรมวิชาการเกษตร ได้พัฒนาต้นกล้ากัญชากัญชง 1 ล้านต้นเพื่อให้แก่ประชาชนไปปลูกในครัวเรือน ทั้งทางด้านการแพทย์ดูแลสุขภาพตนเอง และการประกอบอาหาร ซึ่งการนำไปใช้ก็จะมีการแนะนำการใช้ให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพจิรงๆ   ไม่ส่งเสริมให้ใช้ในทางที่เป็นโทษ เช่น สันทนาการ  แต่เน้นทางการแพทย์ 

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า หากเกษตรกรทำสิ่งเหล่านี้ได้ดี ก็จะต่อยอดเป็นเศรษฐกิจพื้นบ้าน หรืออุตสาหกรรมในการปลูกกัญชาเพื่อนำผลผลิตพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยขณะนี้ทางปลายน้ำมีสารสกัดเป็นยา มีประกอบอาหาร เครื่องสำอาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจทางชีวภาพต่อไป

"กัญชาก็ไม่ได้จำกัดว่าต้องปลูกในครัวเรือนเท่าไหร่ แต่ให้ปลูกจำนวนที่เหมาะสม เพื่อการดูแลสุขภาพ หรือการปลูกเป็นอาหาร อย่างการปลูกเพื่อสุขภาพเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งใช้ไม่มากแค่ 25% แต่ยังมีการใช้พวกผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ มีการใช้มานานแล้ว" ปลัดสธ. กล่าว

 
เมื่อถามถึงกฎหมายควบคุมการใช้ให้เหมาะสม ปลัด สธ. กล่าวว่า   มีหลายพ.ร.บ.ของกระทรวงสาธารณสุขที่อาจสามารถนำไปใช้ป้องปรามการใช้ไม่เกิดประโยชน์ อย่างการนำมามวนสูบ จะมีกฎหมายออกมาควบคุมในการใช้ที่ไม่เป็นประโยชน์ อย่างเอาไปใช้สันทนาการ ซึ่งการสูบกัญชาทำให้เกิดกลิ่น เกิดควัน อย่างกฎหมายสาธารณสุขมีเรื่องเหตุรำคาญก็สามารถใช้ได้ แต่กฎหมายบุหรี่ไม่ได้ครอบคลุมถึงกัญชา ก็ต้องมาพิจารณาว่าจะขยายควบคุมอย่างไร แต่ก็จะคล้ายกฎหมายควบคุมบุหรี่ ซึ่งมีหลายช่องทางในการดำเนินการเพื่อควบคุมได้ในระดับหนึ่ง

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า จากการที่ได้มีการปลดล็อกกัญชา กัญชงออกจากยาเสพติด ทางกรมวิชาการเกษตร จะให้มาอยู่ในกฎหมายเรื่องคุณภาพมาตรฐานการผลิตต้นกัญชากัญชง เป็นสำคัญ ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการกักพืชเมื่อเช้าวันนี้(19 พ.ค.) ขอนำเรียนความคืบหน้าว่า ขณะนี้คณะกรรมการได้มีมติเห็นชอบให้ทำประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้พืชกัญชา กัญชง เป็นพืชกักกัน เพื่อควบคุมดูแลมาตรฐานต่างๆ รวมถึงการดูแลแมลงศัตรูพืชที่อาจติดเข้ามาได้ รวมไปถึงกรมวิชาการเกษตรจะออกประกาศยกเว้นการนำเข้าเมล็ดพันธุ์เข้ามา หากนำเข้ามาเพื่อประกอบทางการแพทย์ โดยเตรียมขั้นตอนอยู่และจะรีบนำเสนอกระทรวงเกษตรฯ เพื่อออกประกาศกระทรวงเกษตรฯ ให้ได้ก่อนวันที่ 9 มิ.ย. เพื่อรองรับการรอกฎหมายกัญชา กัญชง ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาฯ ขณะนี้

นายระพีภัทร์ กล่าวอีกว่า  กระทรวงเกษตรฯ ยังได้สนับสนุนนโยบายส่งเสริมการใช้ประโยชน์กัญชากัญชงทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยทำการศึกษา ทดลองวิจัยพัฒนาพันธุ์กัญชา กัญชงให้เหมาะสมกับประเทศไทย ซึ่งได้พัฒนาออกมา 10 สายพันธุ์เป็นพันธุ์ไทยทั้งหมด  ทั้งนี้ กำหนดว่า หลังวันที่ 9 มิ.ย. จะมีไม่น้อยกว่า 1 ล้านต้น เพื่อให้ประชาชนและเกษตรกรได้เข้าถึงกล้าพันธุ์ที่ดีมีประโยชน์ รวมไปถึงยังสนับสนุนให้สมาชิกสหกรณ์สามารถปลูกกัญชา กัญชงในลักษณะมาตรฐานคุณภาพ GAP ซึ่งก็จะมีการสร้างกระบวนการฝึกอบรมต่างๆ ต่อไป

เมื่อถามว่าจะมีการแจกต้นกล้ากัญชากัญชง 1 ล้านต้นเมื่อไหร่  นายระพีภัทร์ กล่าวอีกว่า  เมื่อปลดล็อก 9 มิ.ย.2565 ก็จะทยอยแจกกล้ากัญชากัญชงให้ประชาชนเกษตรกรต่อไป  ซึ่งกำหนดไว้ว่า ช่วงวันที่ 9-10 มิ.ย. เตรียมต้นกล้าประมาณ 1 พันต้นกล้า ซึ่งได้รับการอนุญาตจาก อย.แล้ว จากนั้นก็จะมีแผนทยอยแจกในแต่ละเดือน

 "สำหรับประชาชนจะรับตามระเบียบต้องมีการขึ้นทะเบียนในจังหวัด อาจเป็นกลไกของอบจ. อบต. ภาคส่วนของท้องถิ่นมาช่วย เป็นต้น  ซึ่งทราบว่ากระทรวงสาธารณสุขมีการพัฒนาแอปพลิเคชันนี้ในการลงทะเบียน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ จะมีการร่วมกันตรงนี้เพื่อทำฐานข้อมูลผู้ใช้ ผู้ปลูกต่อไป"  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว
 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org

เรื่องที่เกี่ยวข้อง