ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายหมออนามัยลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันไตรภาคี ร่วมมือวิจัยและพัฒนาวิถีชุมชนไทยและเวทีคติชนนานาชาติ แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดองค์ความรู้การแพทย์ทางเลือกหรือการแพทย์ธรรมชาติระหว่างท้องถิ่น ประเทศเพื่อนบ้าน และนานาชาติระหว่างท้องถิ่น สนับสนุนการเรียนรู้หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค (วิชาสาธารณสุขชุมชน) เพื่อต่อยอดดูแลสุขภาพประชาชนให้มีสุขภาวะที่ดีและยั่งยืน 

วันที่ 17 มิ.ย.65 - ณ โรงแรมทองธารินทร์ จังหวัดสุรินทร์  มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันไตรภาคี เพื่อร่วมกันวิจัยและพัฒนาในวิถีชุมชนไทยและเวทีคติชนนานาชาติ แลกเปลี่ยน และถ่ายทอดองค์ความรู้การแพทย์ทางเลือกหรือการแพทย์ธรรมชาติระหว่างท้องถิ่นประเทศเพื่อนบ้านและนานาชาติ สนับสนุนการเรียนรู้หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ระหว่าง มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย มูลนิธิส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมสุรินทร์ โดย Thailand IFF  หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค (วิชาสาธารณสุขชุมชน)  มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์  

นายธาดา วรรธนปิยกุล  ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย เปิดเผยว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ มีสาระสำคัญที่จะขับเคลื่อนการทำงาน คือ 1. ร่วมมือกันวิจัยและพัฒนาในวิถีชุมชนไทยและเวทีคติชนนานาชาติ (International Folklore Platform) ให้เป็นสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ของหลักสูตรปรัชญาดุษฏีบัณฑิต สาขายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค (วิชาสาธารณสุขชุมชน) มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์  2. รวมกลุ่มอาสาสมัครเพื่อแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดความรู้การแพทย์ทางเลือกหรือการแพทย์ธรรมชาติระหว่างท้องถิ่นประเทศเพื่อนบ้านและนานาชาติ  

นายธาดา  กล่าวต่อว่า ในนามของมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัยที่มีบุคลากรด้านสาธารณสุขกว่า 70,000 คนทั่วประเทศ รู้สึกยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือสนับสนับการทำงานโดยเฉพาะด้านสุขภาพของประชาชน เพราะหากประชาชนหรือคนในชุมชนได้รับการดูแลด้านสุขภาพและมีความสุข ก็จะทำให้เกิดการมีสุขภาวะที่ดี สามารถลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้  

ซึ่งการทำงานร่วมกันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาวิถีชุมชนไทย การแลกเปลี่ยนและร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้การแพทย์ทางเลือกกับประเทศเพื่อนบ้านหรือนานาชาติ นับเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้นำองค์ความรู้มาสนับสนุนการเรียนการสอนในรั้วมหาวิทยาลัย ทำให้ได้บุคลากรที่มีคุณภาพและสามารถนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดและพัฒนาสุขภาวะคนในชุมชนให้มีความยั่งยืนต่อไป   

รศ.ดร.อัจฉรา ภาณุรัตน์   ประธานมูลนิธิส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมสุรินทร์  โดย Thailand IFF  กล่าวว่า  รู้สึกปิติและภูมิใจอย่างยิ่งที่ทางมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัยได้ร่วมมือในครั้งนี้โดยเฉพาะด้านการสาธารณสุขชุมชนที่ทางหลักสูตรปรัชญาดุษฏีบัณฑิต ของมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ ได้มีความภาคภูมิใจที่ผลิตบัณฑิตกลุ่มวิชาสาธารณสุขชุมชนออกไปรับใช้บ้านเมือง ประมาณ 70 คน    และการที่ 3 องค์กรมาร่วมมือกันจะเป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกันในประเด็นที่ว่า ทำอย่างไรที่จะให้ความรู้  ให้ทุกคน รู้จักเป็นหมอ รู้จักตนเอง  เป็นวิธีบำบัดโดยธรรมชาติ ซึ่งแทบจะไม่ต้องใช้ทรัพย์สินเงินทองหรือการลงทุน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมากมาย แต่อาศัยองค์ความรู้ไม่ว่าจะเป็นแพทย์แผนไทย

การแพทย์ของประเทศเพื่อนบ้านที่นักศึกษาและดุษฎีบัณฑิตของมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์  ได้ไปเก็บข้อมูลที่ประเทศเพื่อนบ้าน คิดว่าองค์ความรู้เหล่านี้จะหลอมรวมและถูกบูรณาการรวมกับกลุ่มภาคปฏิบัติ คือ  มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญอยู่ในพื้นที่ มีความรู้เรื่องโรคภัยไข้เจ็บทุกพื้นที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ  การมารวมกันของภาคทฤษฎีที่รับมาจากประเทศเพื่อนบ้าน บูรณาการร่วมกับภาคปฏิบัติจริงในประเทศไทย น่าจะเกิดสิ่งใหม่ขึ้น ที่เป็นประโยชน์และเป็นคุณค่ากับการรักษาสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมแก่ประชาชนชาวไทย    

ทั้งนี้ ในการลงนาม MOU ได้จัดทำขึ้น 3 ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน และมีผลปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจร่วมกันไตรภาคี ซึ่งจะมีผลใช้บังคับเป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันลงนามเป็นต้นไป