ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คณบดีศิริราช ชี้ขณะนี้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม! ชงรัฐบาลกระชับมาตรการป้องกันมากขึ้น ออกข้อบังคับใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิด ช่วยป้องกันเชื้อแพร่กระจาย ขณะที่กระทรวงสาะารณสุขเชื่อว่าจะเสนอ ศบค.พิจารณา เพื่อสอดรับหนังสือสธ.สั่งการผู้ตรวจฯ เตรียมพร้อมระบบสาธารณสุขรองรับผู้ป่วย

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2565 ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า การระบาดของไทยขณะนี้ไม่ได้แตกต่างจากหลายประเทศ ทั่วโลกที่พบการระบาดของ BA.4 BA.5 ไปแล้วกว่า 110 ประเทศ  และการรายงานตัวเลขติดเชื้อที่แท้จริงก็ต่ำกว่าความเป็นจริง เนื่องจากหลายประเทศเลิกตรวจหาเชื้อไปแล้ว  บางประเทศที่ตรวจก็ไม่ได้ตรวจสายพันธุ์ เช่นเดียวกับไทยก็ไม่ต่าง เพราะมีการเปิดประเทศ จึงพบ BA.4 BA.5 จากการนำเข้าโดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เมื่อมาถึงก็ตรวจน้อยลง โอกาสแพร่กระจายเชื้อจึงมากขึ้น คาดว่าไม่นานเชื้อ BA.4 BA.5 จะกลายเป็นสายพันธุ์หลัก แต่ข้อมูลทั่วโลกพบว่าเชื้อไม่ก่อความรุนแรง

สิ่งที่ต้องย้ำ คือ มาตรการต่างๆ ต้องกลับมากระชับมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ฉีดไม่ครบ อยากรณรงค์เร่งฉีดให้ครบ โดยเฉพาะเข็มกระตุ้นที่ยังฉีดกันได้แค่ร้อยละ 42-43 จากที่ตั้งเป้าไว้ร้อยละ 50  เพราะก่อนหน้านี้กลุ่มเสี่ยง 608 ที่ฉีดเข็มกระตุ้นเข็ม 3 ยังเสียชีวิต แต่ขณะนี้มีรายงานแม้ฉีด 4 เข็มก็เสียชีวิตได้ และไม่ต้องรอวัคซีนรุ่น 2 เพราะกว่าจะออกมาฉีดได้คาดว่าในช่วงปลายปี เพราะยังอยู่ในขั้นตอนทดลองมนุษย์  นอกจากนี้คงต้องกระขับมาตรการการใส่หน้ากาก การเว้นระยะห่าง และล้างมือด้วย

“วันนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยน อยากให้ผู้ใหญ่ในประเทศส่งสัญญาณ เพราะขณะนี้มีการติดเชื้อเพิ่ม  จึงเสนอให้รัฐบาลต้องกลับมากระชับมาตรการป้องกันให้มากขึ้น โดยเฉพาะการออกข้อบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิด ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ เป็นมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขคงจะต้องเสนอ ศบค.พิจารณา สอดรับกับหนังสือที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขสั่งการถึงผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตเตรียมพร้อมให้หน่วยบริการสุขภาพรับมือผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น เป็นมาตรการที่ต้องรีบทำ อย่ารอจนเตียงไม่พอจะไม่ทันต่อสถานการณ์” ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าว

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวด้วยว่า ประเมินสถานการณ์เวลานี้อาจจะไม่รุนแรงเหมือนช่วงการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ปัจจัยมาจากคนฉีดวัคซีนไปค่อนข้างมาก และตัวเชื้อไม่ได้รุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น แต่เชื้อตัวนี้แพร่ระบาดเร็วมาก หากแพร่เร็วจนเพิ่มจำนวนมากก็เสี่ยงที่เกิดการกลายพันธ์ุได้ ที่น่าห่วงคือกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะได้รับเชื้อจากคนที่ไม่แสดงอาการ จึงต้องย้ำถึงการฉีดวัคซีนให้ครบ แม้ไม่ได้ป้องกันติดเชื้อ แต่ยังป้องกันความรุนแรงของโรค

ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ป่วยโควิดในรพ.ศิริราชว่า ยอมรับผู้ป่วยโควิดเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นจริง โดยเฉพาะผู้ป่วยไอซียูที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งผู้ป่วยเหล่านี้มาด้วยโรคประจำตัว เมื่อมาตรวจกลับพบเป็นโควิดร่วมด้วย ขณะนี้เตียงรองรับผู้ป่วยโควิดยังเพียงพอ แต่ก็ไม่ได้วางใจ และเตรียมรับมือกับสถานการณ์อยู่ต่อเนื่อง ทั้งยังเข้มมาตรการส่วนบุคคลในบุคลากรทุกระดับที่ยังต้องใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ เพราะไม่รู้ว่า คนที่เดินไปมาติดเชื้อหรือไม่ ขณะที่ผู้ป่วยระดับสีเขียวเข้ามารักษาเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่จากการติดตามอาการหลังกินยา 4-5 วันก็หาย ไม่ได้รุนแรง ทั้งนี้รพ.ศิริราชและกระทรวงสาธารณสุขได้มอนิเตอร์เฝ้าระวังสถานการณ์อยู่ต่อเนื่อง

(ข่าวเกี่ยวข้อง : สธ.แจ้ง รพ.สังกัดเตรียมพร้อมระยะหลังโควิดระบาดใหญ่ ย้ำ! จากนี้ติดเชื้อได้แบบระลอกเล็กๆ)

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org