ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. จับมือ แอป คลิกนิก (Cicknic) ขยายบริการผู้ป่วยโควิดผ่านระบบออนไลน์ สิทธิบัตรทอง สิทธิข้าราชการ ทั้งกลุ่มสีเขียวและกลุ่ม 608 พบแพทย์ผ่านออนไลน์ พร้อมจัด "ส่งยาถึงบ้าน" ฟรี

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 เวลา 14.00 - 15.00 น. เพจเฟสบุ๊ก : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดแถลงข่าว สปสช. จับมือ แอปฯ คลิกนิก (Cicknic) ขยายบริการผู้ป่วยโควิดผ่านระบบออนไลน์ ดูแลผู้ป่วยโควิดทั่วประเทศ สิทธิบัตรทอง สิทธิข้าราชการ ทั้งกลุ่มสีเขียว และกลุ่ม 608 พบแพทย์ผ่านออนไลน์ พร้อมจัดส่งยาถึงบ้านฟรี  โดยมี ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ นีล นิลวิเชียร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คลิกนิกเฮลท์ จำกัด ร่วมอภิปราย

คุณนีล นิลวิเชียร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คลิกนิกเฮลท์ จำกัด เล่าว่า คลิกนิก เป็นบริษัทเทเลเมดิซีน หรือ การแพทย์ทางไกล เปิดเป็นเวลากว่า 4 ปี เดิมลูกค้าหลัก คือ บริษัทประกันเอกชน ที่มีเทเลเมดิซีนในบริการ คลิกนิกก้าวเข้ามาทำงานร่วมกับทางภาครัฐ จากการช่วย สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) ในช่วงโควิด-19 ระบาดรอบแรก โดยนำแอปฯ ให้กรมควบคุมโรค ใช้คัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูง จนกระทั่งการระบาดของโควิดล่าสุด ซึ่งมีผู้ป่วยจำนวนมาก ดูได้จากประกันเอกชน ที่มีคนเข้ามาด้วยอาการโควิด-19 มากขึ้น ดังนั้น คลิกนิก จึงมองว่าเทคโนโลยีที่มี สามารถดูแลคนได้มากกว่าประกันของเอกชนทั่วไป จึงเป็นที่มาของการเข้ามาร่วมมือกับ สปสช.ในครั้งนี้

สำหรับกรณีจากผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว สู่การดูแล กลุ่ม 608 นั้น การร่วมมือระหว่าง คลิกนิก กับ สปสช. ให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 ผ่านเทเลเมดิซีน โดยเริ่มจาก ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ขณะเดียวกัน ตัวเลขที่น่าสนใจ คือ คนไข้ 100 % หากคัดกลุ่มสีเขียวจริงๆ จะได้ 30-40 % แต่จะมีอีกราว 30% เป็นกลุ่ม 608 หรือเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง 

นีล กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลดังกล่าว จึงได้พูดคุยกับทีม สปสช. ในการดูแลคนไข้กลุ่มนี้ด้วย เพราะมีจำนวนมาก ประกอบกับสปสช. ให้ความร่วมมือและซัพพอร์ต "ยาโมลนูพิราเวียร์" ในการจ่ายให้กับกลุ่มดังกล่าว  “คลิกนิกมีประสบการณ์ส่งยาไปต่างจังหวัด ทำให้เราขยายการดูแลคนไข้นอกจากกทม. ปริมณฑลไปยังทั่วประเทศได้ โดยส่งยาผ่านบริษัทโลจิสติกส์มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นไปรษณีย์ไทย หรือ แฟลช ส่วนใหญ่จะได้รับในวันถัดมา และอนาคต มีเป้าหมายที่จะส่งยาผ่านไรเดอร์ให้ได้ภายในวันเดียว ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการทดลอง”

ตอนนี้ปัจจุบันมีคลิกนิก มีหมอในระบบ 40 คน ตอนนี้คอขวดไม่ได้อยู่ที่คุณหมอ แต่อยู่ที่การคัดกรองว่าคนที่เข้ามามีสิทธิเบิกได้จริงหรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลา โดยคลิกนิก จะเพิ่มทีมคัดกรอง และทีมหมอ เพื่อให้บริการได้เร็วและครอบคลุมมากขึ้น โดยคุณหมอ 1 คน สามารถตรวจได้ 20 คนต่อวัน "คนไข้ทุกคนที่เข้ามา เขาอุ่นใจที่ได้เจอหมอ บางครั้งเขาไม่ได้อยากได้ยาต้านไวรัส แต่อยากรู้ว่าจริงๆ อาการของเขามันหนักหรือไม่ ในแต่ละครั้งที่คนไข้คุยกับหมอแล้วรู้สึกสบายใจ รับยาตามอาการได้ ทำให้คนไข้อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด" 

นีล กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน คลิกนิก เปิดให้บริการ 07.00 – 19.30 น. ระยะถัดไปเปิดให้บริการถึง 21.00 น. และเป้าหมายคือ 24 ชั่วโมง คอขวด ของการทำได้ 24 ชั่วโมง ไม่ได้อยู่ที่คุณหมอหรือระบบ แต่อยู่ที่ร้านยา เพราะยาที่จ่ายไปจะมีเภสัชกรคุยด้วย และมีร้านยาเพียงไม่กี่แห่งที่เปิดได้ 24 ชั่วโมง ดังนั้น หากร้านยาสามารถเปิดได้ 24 ชม. เมื่อไหร่ก็จะสามารถเปิดได้ 24 ชั่วโมงทันที

ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสปสช. กล่าวว่า คนไข้ทุกคนจะได้พบแพทย์ ซักประวัติ หากเป็นกลุ่ม 608 แพทย์จะวินิจฉัยว่าต้องไป รพ. หรือ รักษาที่บ้านได้ หากต้องไป รพ. ก็ประสานกลับมาที่ 1330 โดย สปสช. จะมีทีมคอยประสานหาเตียง แต่หากสามารถรักษาตัวที่บ้าน อาการไม่มาก แม้จะเป็นกลุ่ม 608 หากดุลยพินิจของหมอว่าสมควรได้รับยาต้านไวรัส คลิกนิก จะส่งยาไปให้" 

“ยาต้านไวรัส เหมาะกับคนที่มีอาการ หากหมอมองว่าใครควรจะได้ ก็จะมีการส่งไปให้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าส่ง ค่ายา ค่าที่ปรึกษา ไม่มีการเรียกเก็บจากคนไข้" ทพ.อรรถพร กล่าว