ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 5 เป็นหญิงไทยกลับจากดูไบ มีอาการตั้งแต่ก่อนเดินทาง เข้ามาถึงไทย 14 ส.ค. เจ้าหน้าที่คัดกรองพบมีอาการคล้ายป่วย และสังเกตเห็นตุ่ม จึงประสาน ส่ง รพ.รับการตรวจพบผลบวก ขณะที่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใกล้ชิดไม่พบ แต่มีการติดตามคนนั่งใกล้บนเครื่องบิน 2 คน

 

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้พบประเทศไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 5 เป็นผู้หญิงไทย อายุ 25 ปี ไปอยู่ต่างประเทศและมีอาการป่วยที่ต่างประเทศและเดินทางกลับมาจากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้ามาถึงไทยวันที่ 14 ส.ค. เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีระบบคัดกรอง ตรวจและสังเกตอาการ พบเข้าข่ายสงสัย เนื่องจากดูมีอาการเหมือนไม่ค่อยสบาย พอเข้าไปสอบถามก็สังเกตเห็นตุ่ม จากการซักประวัติก็ให้ความร่วมมือดี จึงนำมารับการตรวจวินิจฉัยใน รพ. ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเป็นโรคฝีดาษลิง เข้าสู่การรักษาตามระบบปกติ

 

"รายนี้ถือเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ เพราะมีอาการตั้งแต่อยู่ที่ต่างประเทศและกลับมาไทย รายนี้ติดตามผู้สัมผัส ถือว่ามีน้อยเนื่องจากเพิ่งเข้ามา และสัมผัสใกล้ชิดกับเขาจริงๆ ตามนิยามก็แทบไม่มี แต่เราติดตามคนที่นั่งบนเครื่องบินใกล้กัน 2 ราย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติทั้งคู่ เพื่อแนะนำให้มาตรวจต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่าโรคฝีดาษลิงติดต่อไม่ง่าย ที่ผ่านมามีข้อมูลจากต่างประเทศหลายครั้ง คนติดเชื้อฝีดาษลิงพอขึ้นเครื่องบินมา คนนั่งข้างๆ ไม่ามีคนใดติดเชื้อเลย แต่เพื่อให้ระบบการทำงานสมบูรณ์แบบจะตามคนที่นั่งข้างๆ กับเขาถ้ายังอยู่ในไทยก็ให้มาตรวจอีกครั้งหนึ่ง" นพ.โอภาสกล่าว

 

นพ.โอภาสกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนประวัติตามระบบ เบื้องต้นมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ เนื่องจากอยู่ต่างประเทศอยู่แล้ว ซึ่งจุดที่มีคนต่างชาติไปรวมตัวกันถือว่าเป็นจุดที่มีการระบาด โดยเฉพาะตะวันออกกลางเป็นชุมทางที่คนทั่วโลกมารวมกันถือเป็นจุดเสี่ยง รวมถึงประเทศไทยมีคนต่างชาติเดินทางเข้าออกเยอะพอสมควร แต่โรคนี้ไม่ได้ติดต่อง่ายหรือทางหายใจเป็นหลัก การติดต่อคือสัมผัสใกล้ชิดจริงๆ ถ้าเราใช้ชีวิตปกติก็ไม่ต้องกังวลไป ที่ผ่านมารายที่ 1-4ของไทยก็ยังไม่มีผู้ใกล้ชิดคนไหนติดเชื้อเลย ขนาดอยู่บ้านเดียวกันหลายวันยังไม่ติดเชื้อเลย แสดงว่าไม่ได้ติดง่าย แต่ไม่ได้แปลว่าอยู่ร่วมบ้านแล้วจะไม่ติด ถ้ามีเหตุสัมผัสใกล้ชิดก็อาจติดเชื้อได้

 

นพ.โอภาส กล่าวว่า จากนี้ก็จะแจ้งประเทศต้นทางตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ เนื่องจากประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศก็จะแจ้งไปที่ต้นทาง คือ ดูไบ ทั้งนี้ โรคฝีดาษลิงความรุนแรงหากเทียบกับโควิดถือว่ารุนแรงน้อยกว่า มีติดเชื้อประมาณ 3 หมื่นคน เสียชีวิต 6 คน ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวหรือโรคแทรกซ้อน อัตราป่วยตายต่ำมาก และการแพร่ระบาดของเชื้อไม่ติดต่อง่ายและรวดเร็ว เพราะไม่ได้ติดต่อทางหายใจเป็นหลัก ทางหลักยังเป็นตุ่มหนองที่สัมผัสใกล้ชิดกัน สังเกตข้อมูลต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป้นผู้ชายในกลุ่มชายรักชาย ส่วนของประเทศไทยก็เช่นกัน ส่วนใหญ่มีประวัติมีเพศสัมพันธ์ หรือใกล้ชิดกัน แต่โรคนี้ยังไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่การมีเพศสัมพันธ์ทำให้ติดต่อใกล้ชิดกัน ส่วนใหญ่ยังสัมพันธ์กับชาวต่างชาติ อย่างไรก้ตาม คนมีตุ่มฝีหนองให่ระวังอย่าไปสัมผัสใกล้ชิดและไปรับการตรวจวินิจฉัยต่อไป