ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เด็กไทยได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้านไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน บุหรี่ทำคนไทยเสียชีวิตปีละเกือบหมื่นคน วอนเลิกสูบบุหรี่ในบ้าน ปกป้องสุขภาพเด็กและคนในครอบครัว ควันบุหรี่ทำเด็กป่วยหลอดลมอักเสบ หืด ติดเชื้อทางเดินหายใจ ปอดบวมจนถึงเสียชีวิต 

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ผศ.ดร.ศรัณญา  เบญจกุล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยถึงกรณี ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช คณะแพทยศาสตร์เชียงใหม่ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ถึงผู้ป่วยหญิงอายุ 50 ปี เสียชีวิตด้วยมะเร็งปอด จากการได้รับควันบุหรี่มือสองเป็นเวลานาน 20 ปี ในบ้าน จากสามีและคนรอบข้างที่สูบบุหรี่ ว่า ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564

พบว่า คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ไม่สูบบุหรี่ 3.43 ล้านคน ในจำนวนนี้ได้รับควันบุหรี่ในบ้านตัวเอง แบ่งเป็นเพศชาย 6 แสนกว่าคน เพศหญิง 2.82 ล้านคน  ขณะที่ในครัวเรือนที่มีเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 5 ขวบ พบว่า ในทุก 10 ครัวเรือน จะมี 5 ครัวเรือนที่มีคนสูบบุหรี่ ในจำนวนนี้มี 3 ครัวเรือนมีการสูบในบ้าน รวมแล้วจะมีเด็กไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคนเป็นอย่างน้อย ที่ได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน แม้ในภาพรวม แนวโน้มการได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน จะลดลงจาก 39.9% ในปี 2557 เหลือ 23.7% ในปี 2564

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ข้อมูลการเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสอง ที่วิเคราะห์โดย Institute for Health Metrics and Evaluation และองค์การอนามัยโลกใช้อ้างอิง ของไทยเท่ากับ 9,433 คนต่อปี และทั่วโลกเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสอง 1.2 ล้านคนต่อปี ขณะที่สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งปอดจากการได้รับควันบุหรี่มือสองปีละ 7,300 คน ทั้งนี้ ควันบุหรี่มือสอง ประกอบด้วยสารก่อมะเร็งและสารพิษอื่น ๆ เช่นเดียวกับในควันบุหรี่ที่ผู้สูบบุหรี่เองได้รับ

ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า แม้แนวโน้มการสูบบุหรี่ในบ้านของผู้สูบบุหรี่ไทยจะลดลง แต่ยังอยู่ในอัตราที่สูง ทำให้เกิดการเจ็บป่วยของคนในบ้าน โดยเฉพาะในเด็กเล็กจากหลอดลมอักเสบ การติดเชื้อทางเดินหายใจ ปอดบวมจนถึงเสียชีวิต เป็นหืด อาการหืดกำเริบ ขณะที่ผู้ใหญ่ที่ได้รับควันบุหรี่มือสองระยะยาว โรคที่พบคือมะเร็งปอด โรคเส้นเลือดหัวใจและสมองตีบ ทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันให้ความรู้ผู้สูบบุหรี่และคนใกล้ชิดคนสูบบุหรี่ ถึงพิษภัยของควันบุหรี่มือสอง หากยังเลิกบุหรี่ไม่ได้ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะสูบบุหรี่ในบ้าน ซึ่งการสูบบุหรี่ในบ้าน นอกจากทำให้คนในบ้านได้รับอันตรายจากควันบุหรี่มือสองแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ลูกหลานในบ้านกลายเป็นคนสูบบุหรี่ในอนาคต ขณะที่การไม่สูบบุหรี่ในบ้าน จะทำให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบได้ง่ายขึ้น