ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปัจจุบันหลายคนมีพฤติกรรมกินแล้วนอน กินดึก หรือชื่นชอบการรับประทานบุฟเฟต์ ทำให้โรคกรดไหลย้อนเกิดขึ้นได้ง่าย แต่จริงหรือไม่ที่กรดไหลย้อนนำพาความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหลอดอาหาร นพ.ภาสกร วันชัยจิระบุญ อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา กรรมการและผู้ช่วยเลขาธิการ แพทยสภา ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า ศูนย์เชี่ยวชาญระดับสูงด้านมะเร็ง อธิบายถึงอาการกรดไหลย้อนกับ Hfocus ว่า ภายหลังจากที่รับประทานอาหารแล้ว อาหารจะเข้าไปที่หลอดอาหารสู่กระเพาะอาหาร ซึ่งโดยปกติหูรูดที่อยู่ในบริเวณหลอดอาหารส่วนปลายต่อกับกระเพาะอาหาร ระหว่างลำไส้เล็ก จะปิดเพื่อให้อาหารถูกย่อยด้วยน้ำย่อย กรดจะเพิ่มขึ้นในกระเพาะอาหารเพื่อทำการย่อย ใช้เวลาในการเคลียร์ของที่อยู่ในกระเพาะก่อนไปสู่ลำไส้เล็ก โดยเฉลี่ยจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง-2 ชั่วโมง กรดจะมีปริมาณสูงสุด ช่วงเวลาดังกล่าว ถ้าหูรูดไม่ดีหรือรับประทานอาหารมากเกินไป ในกรณีรับประทานบุฟเฟต์ ความดันในกระเพาะอาหารจะเยอะ เมื่อหูรูดเสื่อมจะเกิดแรงดันทำให้เกิดอาการอาเจียนได้ เมื่อหูรูดใช้งานได้ไม่ดีมากนัก กรดก็จะไหลย้อนขึ้นมา ถ้าย้อนในระดับหลอดอาหารถึงกระเพาะอาหารจะเกิดอาการแสบร้อนตรงกลางหน้าอก แต่เมื่อใดก็ตามกรดไหลย้อนมากขึ้นมาบริเวณปาก ก็จะเกิดอาเจียนได้ หรือเวลานอนหลับแล้วไม่รู้ตัวจะสำลักกรดเข้าไปที่หลอดลม แต่จะโดนกล่องเสียงก่อน ทำให้กล่องเสียงระคายเคือง สังเกตได้จากอาการตอนเช้าหลังตื่นนอน เสียงจะแหบ เจ็บคอเรื้อรัง 

"ถ้ากรดไหลย้อนเป็นเยอะ ย้อนบ่อย เมื่อโดนหลอดอาหารบ่อยครั้งเข้า หลอดอาหารไม่ได้หนาเหมือนกระเพาะจึงเกิดเป็นแผล ร่างกายก็พยายามปรับตัว สร้างเนื้อเยื่อมาใหม่เรื่อย ๆ เพื่อทดแทนเนื้อเยื่อที่ถูกกรด การแบ่งเซลล์แต่ละครั้งจากที่ปกติ ถ้าเป็นบ่อยมาก อาจพบเซลล์ที่ผิดปกติอยู่บ้าง หากร่างกายยังพอกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติออกไปก็จะไม่เป็นมะเร็ง แต่ถ้ามันผลิตบ่อยก็ต้องมีพลาดบ้าง ถ้าหลุดออกมามากขึ้นจะกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหาร โดยเฉพาะมะเร็งที่หลอดอาหารส่วนปลายได้" นพ.ภาสกร อธิบาย

นพ.ภาสกร เพิ่มเติมว่า พฤติกรรมกินแล้วนอนยังส่งผลให้เจ็บคอเรื้อรัง เสียงแหบเรื้อรัง อีกทั้งทำให้เกิดโรคอ้วนได้ด้วย เพราะร่างกายจำเป็นต้องเผาผลาญ เวลานอนอัตราการเผาผลาญก็จะลดลง เมื่อร่างกายย่อยอาหารเสร็จแล้ว ไม่ได้เอาไปใช้ก็จะอ้วนขึ้นเรื่อย ๆ คำแนะนำคือ ไม่ควรรับประทานอาหารก่อนนอน ถ้ารับประทานเสร็จแล้วควรเดินรอสัก 2-3 ชั่วโมง ไม่ควรเอนนอนในทันที เพราะโอกาสที่กรดจะไหลย้อนมามีมากขึ้นได้ อีกส่วนสำคัญคือ หูรูด ถ้าหูรูดดีปัญหาจะน้อยลง แต่เวลาย่อยอาหาร ความดันในกระเพาะอาหารจะสูง หูรูดจะเสื่อมได้เร็วถ้าเกิดกรดไหลย้อนบ่อย ยิ่งอายุเยอะจะเป็นกรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น หูรูดเสื่อมได้เร็วขึ้นด้วย

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org