ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน” ลั่นในฐานะ รมว.สธ. ไม่เห็นด้วยเปิดผับถึงตี 4 แม้ทำแซนด์บ็อกซ์ก็ไม่สวมควร ยิ่งทำ ยิ่งเพิ่มคนไปเที่ยวจุดนั้นมากขึ้น ยิ่งเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ  ส่วนสาเหตุ รมว.ท่องเที่ยวฯ เห็นต่าง เพราะมองในมิติท่องเที่ยว ส่วนรมว.สธ.มองมุมสุขภาพ ไม่ใช่นโยบายพรรค  แม้จะสร้างเม็ดเงินเท่าไหร่ ถ้าต้องแลกกับเสียชีวิต ได้มากี่ล้านก็ไม่คุ้ม โดยเฉพาะชีวิตคนบริสุทธิ์

 

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอให้เปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 แต่ปรากฎว่าวานนี้(6 ธ.ค.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาให้ความเห็นว่าไม่เห็นด้วย ทำให้มีการวิจารณ์การทำงานของพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ที่ไม่คุยกันก่อน ว่า ไม่มีอะไร ทางนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวฯ ก็มองในมิติของการท่องเที่ยว ส่วนตนที่เป็นรมว.สาธารณสุข ก็มองในมิติของสุขภาพ ดูแลเรื่องพฤติกรรมการบริโภคแอลกอฮอล์ของประชาชน ดูความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19 อุบัติเหตุบนท้องถนนจากแอลกอฮอล์

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าช่วงเวลาในปัจจุบันก็เหมาะสมดีแล้ว มีความเป็นสากล ไม่ต่างจากประเทศท่องเที่ยวอื่น เมืองใหญ่ของบางประเทศเปิดถึงเที่ยงคืนถึงตี 1 ด้วยซ้ำ จริงๆ ตี 2 ก็ดึกแล้ว ถ้าคนต้องทำงาน 8 โมงเช้า ก็นอนไม่พอแล้ว ประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆ ก็จะลดลง รวมถึงโควิด-19 ก็ยังอยู่ แม้จะควบคุมได้แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะเปิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ทั้งเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วย เพราะเราต้องการควบคุมในเรื่องเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตนกับนายพิพัฒน์เป็นสมาชิกพรรคร่วมกัน แต่ต่างคนก็ทำหน้าที่ในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนดูแล ไม่ต้องมานั่งถามคนในพรรค ภท. เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่นโยบายของพรรค แต่เป็นเรื่องการทำงานระหว่างกระทรวง  

 

นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่ต้องถึงจุดนั้น เพราะยังต้องมีการแก้ไขกฎหมาย ต้องมีหารือกัน รวมถึงต้องดูประชาชนส่วนรวมด้วยว่าเป็นการเพิ่มความเสียหายหรือไม่ คนส่วนใหญ่ได้อะไร ตอนนี้ตนในฐานะรัฐมนตรียังไม่ได้คุยกับนายพิพัฒน์เรื่องนี้ ที่คุยกันก็จะเป็นฐานะหัวหน้าพรรคถึงประเด็นการเมือง ว่าทางต้องการการสนับสนุนอะไรจากหัวหน้าพรรคภท. หรือจะให้ลงพื้นที่ปราศรัยเมื่อไหร่ ยังไม่มีเรื่องขึ้นมาให้พิจารณา แต่สัปดาห์หน้าก็คงต้องคุยกัน อย่างไรก็ตาม หาก 2 ความเห็นที่ไม่ตรงกัน ก็ต้องเสนอเรื่องถึงรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านนี้ ให้พิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป

 

“ถ้าท่านมาหารือในนามพรรค ต้องอธิบายให้ฟังว่าทำเพื่ออะไร ถ้าบอกว่าเพื่อคะแนนเสียง อันนี้คงไม่ได้ เพราะต้องดูถึงสวัสดิภาพของประชาชน พรรคการเมืองจะมุ่งมั่นเอาแต่คะแนน โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนไม่ได้ อะไรก็ตามที่มันเกิดความเสี่ยงที่จะเกิดโทษกับประชาชน แม้แต่ 1% ก็อย่าทำ” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงการเสนอให้เปิดพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ให้เปิดถึงตี 4 เช่น ถนนข้าวสาร จังหวัดท่องเที่ยว นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่สามารถแยกแบบนั้นได้ ถ้าเราเปิดพื้นที่หนึ่งแล้วจะรู้ได้ไงว่าคนพื้นที่อื่นไม่เดือดร้อน หรือยิ่งเปิดแซนด์บ็อกซ์คนก็จะยิ่งแห่ไปเที่ยวตรงนั้น จะเพิ่มความเสี่ยงเรื่องอุบัติเหตุขึ้นมา

 

เมื่อถามถึงได้หารือกับ รมว.ท่องเที่ยวฯ หรือไม่ว่าถ้าเปิดขายแอลกอฮอล์ถึงตี 4 ได้จะสร้างเม็ดเงินอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าต้องแลกกับเสียชีวิต ได้มากี่ล้านก็ไม่คุ้ม โดยเฉพาะชีวิตคนบริสุทธิ์ด้วย เพราะทุกวันนี้หลายคนตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อเตรียมตัวมาทำงาน ทั้งคนในเมืองและในจังหวัดท่องเที่ยว ฉะนั้น เวลาตี 4 มีคนหนึ่งกำลังมึนเมากลับบ้าน กับอีกคนที่กำลังออกไปทำงาน เปิดร้านขายของ ส่งลูกไปโรงเรียน ถ้า 2 คนต้องมาบรรจบกัน เราจะบอกเรื่องของความคุ้มไม่ได้

เมื่อถามย้ำว่าในรัฐบาลชุดนี้ข้อเสนอในการเปิดผับตี 4  ไม่สามารถเกิดขึ้นแน่นอนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าต้องผ่านรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งตามปกติ หากข้อเสนอของ 2 ฝั่งไม่ตรงกันก็ต้องผ่านรองนายกฯ ที่ดูแลเรื่องนั้นอยู่แล้ว ซึ่งก็คือตน

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง