ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เปิดผลการใช้น้ำมันกัญชา “เมตตาโอสถ” รักษาผู้ป่วยมะเร็ง รพ.การแพทย์แผนไทยฯ  ติดตามข้อมูลต่อเนื่อง 1 ปีในคนไข้ 108 ราย ทั้งมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก  พบอาการดีขึ้น ทั้งปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน คุณภาพชีวิตดีขึ้น ยกเว้นบางกรณีมาจากตัวโรค พร้อมศึกษาข้อมูลเพิ่มหลังพบ  47 รายใช้น้ำมันกัญชามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มน้ำหนักน้อยใช้มากกว่าน้ำหนักเยอะ  เตรียมดันตำรับเมตาโอสถเข้าบัญชียาหลัก

 

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น  ในการสัมมนาวิชาการการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก และสมุนไพรสำหรับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ถูกถ่ายโอนในองค์การบริหารส่วนจังหวัดแบบบูรณาการ  

โดย นพ.ธันวา บัวมหะกุล นายแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน  อภิปรายหมู่เรื่องประสบการณ์การใช้น้ำมันกัญชาทางการแพทย์ในกรณีจำเป็นสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย ว่า  คลินิกเมตตา- การุณโอสถ ในรพ.การแพทย์แผนไทยฯ มีการใช้น้ำมันกัญชาสูตรเมตตาโอสถ ซึ่งเป็นน้ำมันกัญชาที่เด่นเรื่อง THC แต่มี CBD ผสมด้วย โดยน้ำมันกัญชา 1 หยดมีสาร THC  3 มิลลิกรัม และมีสาร CBD อยู่ด้วยใน 1 หยดมี 0.6 มิลลิกรัม

สำหรับโดสที่ให้ผู้ป่วย จากองค์ความรู้ต่างๆ อย่างคนไข้ทั่วไป Palliative 1 คน จะได้รับอยู่ที่  0.15 mg/kg/day ทั้งนี้ หากให้มากกว่านี้ในระยะสั้นไม่มีปัญหา แต่ระยะยาวเรากังวลเรื่องอาจมีปัญหาผลกระทบต่อสมอง หรือภาวะสมองเสื่อมระยะยาวได้   ส่วนคนไข้ในกลุ่ม End of life ติดเตียง สติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ นอนร้องครวญคราง แพทย์ให้ออกจากรพ.กลับมานอนที่บ้น ให้แต่ยาแก้ปวดประคับประคอง จะให้ในปริมาณเยอะขึ้น คือ 0.5  mg/kg/day  โดยเราคุมการใช้ THC เป็นหลัก เพราะ CBD ให้สูงได้ไม่มีผลข้างเคียง โดยข้อห้ามใช้ คือ คนมีประวัติแพ้สารสกัดกัญชา ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ควบคุมไม่ได้ ผู้ป่วยจิตเภทที่ควบคุมไม่ได้ เป็นต้น  วิธีการใช้เริ่มแรกต้องค่อยๆ อย่าง 1 หยดก่อนนอนในระยะแรกๆ และต้องแนะนำคนไข้ว่าไม่ควรเกิน 3-4 หยดต่อวัน  

นพ.ธันวา กล่าวว่า สำหรับผลและอาการไม่พึงประสงค์ของน้ำมันกัญชาเมตตาโอสถ ในผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่มารับบริการที่คลินิกเมตตา- การุณโอสถในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 จนถึงปัจจุบันมีคนไข้รวม 460 ราย โดยเป็นคนไข้มะเร็ง 274 ราย รองลงมาคือ กลุ่มปวดทางระบบประสาท โรคลมชัก เป็นต้น ทั้งนี้ มีคนไข้ที่ติดตามอาการตลอด 148 ราย และสามารถนำมาวิเคราะห์ข้อมูลได้ 108 ราย เป็นเพศชาย 58 คน เพศหญิง 50 คน อายุอยู่ช่วง 40-50 ปี ทั้งนี้ ชนิดของมะเร็ง 3 อันดับแรกที่พบ คือ  มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก  และคนไข้ที่มีปัญหาจากตัวโรค คือ นอนไม่หลับ ปวด เบื่ออาหาร  ผลข้างเคียงมีไม่มาก ส่วนใหญ่เวียนศีรษะ ปากแห้งคอแห้ง ใจสั่น คันปากคันคอ

“จากการประเมินข้อมูลคนไข้ที่มีการใช้น้ำมันกัญชาเมตตาโอสถ โดยเราเริ่มให้ประมาณ 1 หยด       มีแนวโน้มคนไข้ใช้เพิ่มขึ้น แต่ยังควบคุมได้ไม่ถึงกับติดยา  ส่วนการประเมินอาการปวด ไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวนั้น พบว่า คนไข้ 108 ราย มีอยู่ 88 รายคอมเพลนว่านอนไม่หลับ เมื่อมีการใช้คุณภาพการนอนดีขึ้น ส่วนอาการปวดก็ดีขึ้น คลื่นไส้อาเจียนก็เริ่มดีขึ้นเช่นกัน เมื่อมีการติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ คนไข้จะให้คะแนนดีขึ้น มีบางครั้งระหว่างเก็บข้อมูลที่มีบางช่วง พบว่า ด้วยตัวโรค ด้วยกระบวนการรักษาปกติก็อาจทำให้มีอาการเช่นกัน” นพ.ธันวา กล่าว

ทั้งนี้ คนไข้ 108 ราย จะมีโอกาสติดยาอย่างมีนัยะสำคัญหรือไม่นั้น จริงๆคือไม่ แต่มีอยู่ 47 รายที่พบว่าใช้ปริมาณมากขึ้น ซึ่งพบว่า เพศชายมีโอกาสใช้มากกว่าเพศหญิงอย่างมีนัยะสำคัญ ส่วนอายุไม่มีผลต่อปริมาณการใช้ ขณะที่น้ำหนักมีผลเช่นกัน ภาพรวมคนไข้ 47 รายพบว่า คนไข้มีน้ำหนักน้อยจะมีโอกาสใช้น้ำมันกัญชามากกว่าคนไข้น้ำหนักมาก ตรงนี้ต้องติดตามและศึกษาข้อมูลต่อไป  

 

ดร.ภก.ปรีชา หนูทิม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน  กล่าวว่า  ปัจจุบันน้ำมันกัญชาตำรับอ.เดชา อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์บัญชียาหลักของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. แล้ว ส่วนตำรับเมตตาโอสถ กำลังดำเนินการเข้าสู่สิทธิประโยชน์ต่อไป

อนึ่ง เมตตาโอสถ คือ น้ำมันกัญชาที่เกิดจากการนำดอกกัญชาตัวเมียพันธุไทย ได้แก่ สาหร่ายหางกระรอก ที่มีสาร THC สูงมาอบแห้งและนำไปสกัดด้วยแอลกอฮอล์หลังจากนั้นเอาสารสกัดที่ได้มาระเหิดเอาแอลกอฮอล์ออกแล้วผสมกับน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น โดยสารสกัดที่ได้จะมี THC สูงถึงร้อยละ 50-80 ของสารที่สกัดได้และมีสารออกฤทธิ์สำคัญอื่นๆด้วย เช่น CBD , Terpene เรียกว่า เป็นสารสกัดที่มีลักษณะเป็ฯ Full sprectrum

 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านเฟซบุ๊กกรมการแพทย์แผนไทย 

https://www.facebook.com/dtam.moph/videos/696033032236514

 

********************

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง