ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

"สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย" ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอชี้แจงและทําความเข้าใจกรณีมีการให้ข้อมูลข่าวที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล (รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)

ข้อความระบุดังนี้ ตามที่ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวงและประธานคณะอนุกรรมการ MIU วิชาการและติดตามประเมินผลถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) /โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล (รพ.สต.) ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและปรากฏเป็นข่าว ทางสื่อในแขนงต่างๆ หลายสํานัก โดยได้กล่าวถึง การติดตามประเมินผลหลังการถ่ายโอนภารกิจ สอน./รพ. สต. ให้แก่ อบจ. ตั้งแต่วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๖ และ พบว่า บุคลากรกว่า ๔๐% ที่โอนย้ายไปมีความ ต้องการขอย้ายกลับคืนสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เนื่องจากเหตุผล ๕ ประการ ดังที่ได้มีข่าวออกไปนั้น

วันนี้ นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ในฐานะที่เป็นตัวแทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ จึงขอชี้แจงและทําความเข้าใจในกรณีดังกล่าว ดังนี้ 

๑. ตามที่ นพ.รุ่งเรือง ได้กล่าวถึงว่า บุคลากรกว่า ๔๐% ที่โอนย้ายไปมีความต้องการขอ ย้ายกลับคืนสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ขอให้ระบุมาให้ชัดเจนว่ามีที่มาของข้อมูลที่สามารถพิสูจน์ ได้หรือไม่ว่าบุคลากรกว่า ๔๐% ที่กล่าวถึงนั้นคือใคร ? มีจังหวัดไหนบ้าง ? เพราะการถ่ายโอนบุคลากรจาก รพ.สต.มาสังกัด อบจ.ในปี ๒๕๖๖ นั้นมีถึง ๒๐,๐๐๐ กว่าคน

ดังนั้นการที่ท่านบอกว่าจะขอโอนกลับ กระทรวงสาธารณสุข ถึง ๔๐ % แสดงว่ามีบุคลากรที่อยากโอนกลับไม่ต่ํากว่า ๕,๐๐๐ คน ซึ่งจากการที่ทาง สมาคมฯ ได้สอบถามไปยัง อบจ.ต่างๆ แล้วก็ได้รับข้อมูลมาว่ายังไม่มีจังหวัดใหนที่มีบุคลากรขอโอนกลับ หรือจะมีบ้างก็ประเภทที่มีความขัดแย้งกันใน รพ.สต.มาขอย้ายสลับไปอยู่ที่อื่น และส่วนใหญ่ก็จะมาทวง ถามกันว่าเมื่อไหร่จะเปิดให้มีการประเมินเพื่อขึ้นระดับชํานาญการพิเศษมากกว่า ดังนั้นจึงขอให้ นพ.รุ่งเรือง ระบุมาให้ชัดว่าท่านเอาข้อมูลมาจากใหน ? อย่างไร ? มีตัวตนจริงหรือไม่ ? เพราะท่านเป็นถึงผู้ หลักผู้ใหญ่ในกระทรวง ออกมาให้ข่าวลอยๆ แบบ Discredit อบจ.อย่างนี้ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อ อบจ.ทั่วประเทศ

๒. การที่ท่านระบุว่า อบจ.ไม่มีความพร้อมในการรับการถ่ายโอน นั้น ขอเรียนว่า ก่อนที่จะ มีการถ่ายโอน ๔๙ อบจ.ที่รับถ่ายโอน ได้ผ่านการประเมินความพร้อมจากคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจ ถ่ายโอนฯ สํานักนายกรัฐมนตรี โดยมีการให้คะแนนตามเกณฑ์ชี้วัดในด้านต่างๆ อย่างชัดเจน อีกทั้งได้รับ ความเห็นชอบจากคณะกรรมการการกระจายอํานาจฯ ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และการถ่ายโอนจริงเพิ่งจะเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ๒๕๖๕ ซึ่งมี ระยะเวลาที่ อบจ.ได้เข้าไปดําเนินการบริหาร รพ.สต.เพียง ๓ เดือน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่สั้นมากถ้าเทียบ ๑๐๐ กับ รพ.สต.ที่อยู่กับกระทรวงสาธารณสุขมาเกือบ ปี ดังนั้นการที่ท่านมาด่วนสรุปในทํานองว่า อบจ. ล้มเหลว ในการรับถ่ายโอน ต้องถามว่าเป็นธรรมกับ อบจ.หรือไม่ ? หรือท่านมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่ ?

๓. อยากให้ท่านกลับไปอ่านทบทวน ประกาศคณะกรรมการกระจายอํานาจฯ ซึ่งลงนามโดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการการกระจายอํานาจฯ ซึ่งได้ลง ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๔ และมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย โดยประกาศ ฉบับนี้ได้ระบุให้ส่วนราชการต่างๆ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข จะต้องดําเนินการสนับสนุนการถ่ายโอน ในฐานะพี่เลี้ยงในหลายเรื่องๆ อยากให้ท่านได้ไปทบทวนดูว่าข้อใหนได้ทําแล้วบ้าง โดยเฉพาะการแก้ไข ระเบียบ ต่างๆเพื่อเอื้อให้สามารถปฏิบัติได้ในช่วงแรกของการถ่ายโอน ซึ่งในบทเฉพาะกาลก็ได้ระบุว่า ภารกิจใดที่ยังไม่ได้มีการแก้ไขระเบียบหรืออยู่ในระหว่างดําเนินการก็ให้ถือปฏิบัติตามเดิมไปก่อนจนกว่าจะ มีการแก้ไขระเบียบมารองรับ แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ปฏิบัติตาม เช่น กรณีเงินค้างท่อของ สป.สช. ซึ่งเป็นผลงานของรพ.สต. ที่ดําเนินการในช่วงโควิด ๑๙ หรือเงิน HICI

ซึ่งขณะนี้ ได้มีการโอนไปที่โรงพยาบาลแม่ข่าย หรือ CUP แต่ไม่ยอมโอนต่อไปยัง รพ.สต.ที่ถ่ายโอน โดยอ้างว่าระเบียบเงินบํารุงของกระทรวงสาธารณสุขไม่ให้ โอนนอกสังกัด ทําให้ขณะนี้มีเงินก้อนนี้ค้างท่ออยู่เฉยๆ โรงพยาบาลก็ใช้ไม่ได้เพราะเป็นเงิน รพ.สต. ในขณะ ที่ รพ.สต.ก็ไม่ได้ใช้เพราะโรงพยาบาลไม่โอนมาให้ ซึ่งทั่วประเทศคาดว่าไม่ต่ํากว่า 9,000 ล้านบาท โดย ทางผู้แทนสมาคม อบจ.ได้สอบถามทางกระทรวงสาธารณสุขไปหลายครั้งแล้วแต่ยังเงียบ ไม่มีวี่แววของการ แก้ไขปัญหา ทั้งๆที่ประกาศคณะกรรมการกระจายอํานาจฯ ได้เปิดช่องไว้ให้แล้วก็ไม่ยอมดําเนินการ หรือ แม้แต่เรื่องการเลื่อนขั้นเงินเดือนของบุคลากร หลังการถ่ายโอน อบจ.ต้องจ่ายเงินเดือนให้กับบุคลากรที่ถ่ายโอนในอัตราของเดือนตุลาคม ๒๕๖๔ เพราะไม่ได้รับบัญชีเลื่อนขั้นเงินเดือน ในปี ๒๕๖๕ จากทางกระทรวงสาธารณสุข และเพิ่งจะได้มาเมื่อเดือนธันวาคมนี้เอง

หรือแม้แต่เรื่องพัสดุและทรัพย์สินขณะนี้ อบจ.ก็ยังไม่ได้รับโอนจากทางกรมธนารักษ์ เพราะการส่งมอบคืนจาก สสจ.ล่าช้า ไม่มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า จนทําให้ขณะนี้หลาย อบจ.ไม่สามารถยื่นคําของบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ ในระบบ BBL ปี ๒๕๑๗ จาก สํานักงบประมาณได้ หรือเรื่องของเงินรายหัวหรือเงิน UC ที่ สป.สช.ให้ไปตกลงกันเองในระดับพื้นที่จนถึง ขณะนี้หลายจังหวัดก็ยังตกลงกันไม่ได้เพราะทางฝั่งสาธารณสุข ไม่ยอมรับเงื่อนไข จึงยังไม่ได้รับเงินส่วนนี้ เข้ามาบริหาร ใน ๓ เดือนที่ผ่านมาหลังการถ่ายโอน รพ.สต.ที่ถ่ายโอน ได้รับเพียงเงินเดือนของข้าราชการ และเงินอุดหนุน S/M/L เพียง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ อย่างเช่น รพ.สต.ขนาด S ก็จะมีเงินบริหารเพียง ๒๐๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น ซึ่งทาง อบจ.ก็ต้องใช้งบประมาณของตนเองเข้าไปช่วยสนับสนุน นอกจากนั้นยังมีปัญหาอื่นๆ อีกหลายประการ ดังนั้น จึงอยากจะฝากไปทาง นพ.รุ่งเรือง ว่าท่านควรจะประเมินหน่วยงานของท่าน ด้วยว่าได้ดําเนินการสนับสนุนการถ่ายโอนภารกิจครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน ?

๔. สมาคม อบจ.ยอมรับว่า การรับถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต.เป็นเรื่องใหม่ที่ อบจ.ไม่เคยทํามา ก่อนและการดําเนินงานในด้านต่างๆ อาจจะยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ในทุกมิติ และเราพร้อมที่จะร่วมมือกับ ทุกภาคส่วนที่จะมาช่วยชี้แนะหรือร่วมกันพัฒนางานในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้มาใช้บริการ และพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะจากทางกระทรวง สาธารณสุข ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มากที่สุด แต่จะต้องเป็นไปในลักษณะของการให้ คําแนะนํา ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีข้อมูล หลักการและเหตุผลประกอบที่ชัดเจน มีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ใช่เป็นการ ออกมาด้อยค่า โจมตี บิดเบือนโดยไม่มีข้อมูลหลักฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทําอย่างยิ่ง

สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ในนามของผู้แทนของ ๔๙ อบจ.ที่รับ ถ่ายโอน และผู้บริหารของแต่ละ อบจ.ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนและในฐานะผู้รับใช้ประชาชน ขอให้คํายืนยันว่า อบจ.ได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ ภายใต้เงื่อนไขและอํานาจหน้าที่ที่ อบจ.จะสามารถดําเนินการได้ อันแสดงให้เห็นถึงความจริงจังและจริงใจในการดําเนินภารกิจฯ เพื่อให้เกิด ประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในพื้นที่

นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย

วันพุธที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๖

 

 

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : 

-สธ. เดินหน้าศึกษาหาทางออกช่วย "บุคลากรสาธารณสุข" ถ่ายโอนไป อบจ.กว่า 40% ขอย้ายกลับ

 -สธ.เผย บุคลากร รพ.สต.ถ่ายโอนไป อบจ. ส่วนหนึ่งขอย้ายกลับ พร้อมเหตุผลหลายประการ

- “เลอพงศ์” ยันอาจมีบ้างบุคลากรถ่ายโอนไปแล้วขอย้ายกลับ แต่ไม่เกิน 5% ด้าน ปธ.ชมรม รพ.สต. ชี้ต้องเร่งแก้ปัญหาด่วน

-“อนุทิน” ตอบปมปัญหาบุคลากรถ่ายโอนไป อบจ. ชี้เป็นหน้าที่ปลัดสธ.บริหารจัดการ

-"สกลนคร-นครพนม" ออกแถลงการณ์ "การถ่ายโอนฯ รพ.สต. สู่ อบจ." จากระยะเวลาเกือบ 4 เดือน พบบุคลากรส่วนมากมีความพึงพอใจ