ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สมาพันธ์เครือข่ายบุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ ยื่นหนังสือร้อง ศอ.บต.-ศาลปกครอง จ.ยะลา ขอความเป็นธรรมค่าตอบแทนเสี่ยงภัยชายแดนใต้ ฉบับที่ 10 ขอให้ทุกวิชาชีพได้รับ เพราะปฏิบัติงานมีความเสี่ยงไม่แตกต่างวิชาชีพอื่นๆ

 

ตามที่สมาพันธ์เครือข่ายบุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ เตรียมยื่นหนังสือศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)  และศาลปกครอง ในจังหวัดยะลา เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมค่าตอบแทนเสี่ยงภัยบุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ ฉบับที่ 10 สืบเนื่องจากมีการเรียกร้องมานานและเรื่องผ่านขั้นตอนต่างๆ แต่จนบัดนี้ยังไม่มีความคืบหน้านั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายริซกี สาร๊ะ เลขาธิการสมาพันธ์เครือข่ายบุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ พร้อมด้วยตัวแทนนักวิชาการสาธารณสุข บุคลากรที่ปฏิบัติงานชายแดนใต้ เดินทางเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องความเหลื่อมล้ำค่าตอบแทนเสี่ยงภัยบุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ที่ ศอ.บต. และศาลปกครอง จังหวัดยะลา ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป

โดยหนังสือเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้แก่บุคลากรสาธารณสุขในจังหวัดชายแดนทุกวิชาชีพ ทุกสายงาน ลงนามโดยนายริซกี สาร๊ะ เลขาธิการสมาพันธ์บุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ ระบุเนื้อหาสำคัญ ดังนี้

สืบเนื่องจากหนังสือสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ ว.79 ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 มีการปรับปรุงรายละเอียดทุกฉบับ โดยเฉพาะค่าตอบแทนชายแดนใต้ ที่มีการลงนามประกาศใช้ โดยผู้มีอำนาจลงนามของกระทรวงสาธารณสุข และปรากฎสาระสำคัญที่ให้สหวิชาชีพปฏิบัติงานในชายแดนใต้ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติม ตรงกับร่างของเขตตรวจสุขภาพที่ 12 ที่เคยยื่นเสนอมาตั้งแต่ปี 2562 ต่อกระทรวงสาธารณสุข กรมบัญชีกลาง และกระทรวงการคลัง แต่กลับมีความพยายามตัดทอนข้อความที่เป็นสาระสำคัญ 2-3 รอบในภายหลัง โดยไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจน ส่งผลต่อขวัญกำลังใจบุคลากร

สมาพันธ์บุคลากรสาธารณสุขชายแดนใต้ จึงใคร่ขอความเป็นธรรมผ่านเลขาธิการ ศอ.บต. ถึงกองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารรสุข กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ความชัดเจนกรณีค่าตอบแทนฉบับที่ 10 ชายแดนใต้ ที่ครอบคลุมทุกวิชาชีพ ทุกสายงานที่ปฏิบัติงานในชายแดนใต้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่บุคลากรในสังกัดภายใต้หลักคุณธรรม อย่างมีธรรมาภิบาล แก่บุคลากรสาธารณสุขทุกสายงาน ทุกวิชาชีพในชายแดนใต้ไม่มีการเลือกปฏิบัติ แบ่งชนชั้นในการทำงาน พร้อมทั้งแจ้งผลให้สมาพันธ์ฯทราบต่อไป


 

    

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org