ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชื่นชมโรงพยาบาลแก่งกระจาน จัดระบบดูแลผู้ป่วยตามบริบทพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง พื้นที่ห่างไกล ให้เข้าถึงการรักษาอย่างครอบคลุม สร้างเครือข่ายสาธารณสุขดูแลสุขภาพประชาชนผ่าน Tele Health ช่วยผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงและผู้พิการได้รับการดูแลครบ 100% วางระบบส่งต่อผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลร่วมกับชุมชน ช่วยให้ถึงมือแพทย์เร็วขึ้น 

 

 

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่โรงพยาบาลแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ว่า อำเภอแก่งกระจานมีพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 40% ของจังหวัด อยู่ห่างไกลติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องการเดินทางมารับบริการและการส่งต่อผู้ป่วย นอกจากประชากรในพื้นที่กว่า 33,000 คน ยังดูแลประชากรในเรือนจำ 2,192 คน และกลุ่มชาติพันธุ์ อีก 3,650 คน ซึ่งต้องขอชื่นชม แพทย์หญิงอนุธิดา ประทุม ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ที่บริหารจัดการโรงพยาบาลให้สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างดี ทั้งการย้ายสิทธิการรักษาของประชากรในเรือนจำมาที่โรงพยาบาล การดูแลกลุ่มคนไทยไร้สิทธิและกลุ่มชาติพันธุ์ ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสวัสดิการการรักษาพยาบาลได้มากขึ้น

 

นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า โรงพยาบาลแก่งกระจานยังมีการพัฒนาระบบบริการให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ที่มีข้อจำกัดเรื่องการมารับบริการและการส่งต่อผู้ป่วย โดยสร้างเครือข่ายการรักษาผ่านระบบ Tele Health ร่วมกับ รพ.สต. 9 แห่ง สุขศาลาพระราชทาน 2 แห่ง และคลินิกปฐมภูมิ 4 แห่ง ที่กระจายอยู่ภายในอำเภอ เพื่อดูแลผู้ป่วยได้อย่างครอบคลุม ส่งผลให้ในปี 2565 ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้พิการ ได้รับการดูแลครบ 100% ส่วนผู้สูงอายุติดสังคมและกลุ่มเปราะบางได้รับการดูแลกว่า 90% ส่วนพื้นที่ห่างไกลใช้เวลาเดินทางไปกลับถึง 4 ชั่วโมง ได้ร่วมกับเครือข่ายชุมชนวางระบบนำส่งผู้ป่วยมาเปลี่ยนถ่ายให้รถโรงพยาบาลระหว่างทาง ช่วยลดระยะเวลาให้ผู้ป่วยถึงมือแพทย์เร็วขึ้น

 

ด้าน พญ.อนุธิดา กล่าวว่า ในระยะต่อไปมีแผนจะพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลให้ตอบสนองการบริการผู้ป่วยได้มากขึ้น เช่น จัดระบบ Tele Health ตามหมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลให้สามารถสื่อสารทางตรงกับโรงพยาบาลได้ทันที เพิ่มการรับส่งต่อผู้ป่วยเร่งด่วนฉุกเฉินด้วย Sky Doctor ซึ่งจะยิ่งลดระยะเวลาถึงมือแพทย์จาก 2 ชั่วโมง เหลือ 15 นาทีช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตให้ผู้ป่วยในภาวะวิกฤต ส่วนพื้นที่ด้านรอยต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อให้เกิดการส่งต่อผู้ป่วยอย่างไร้รอยต่อ รวมทั้งจะพัฒนาให้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเป็นอีกหนึ่งหน่วยบริการดูแลส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (Health Promotive and Preventive Clinic Elderly Care) มีระบบ Drive Thru ในการเจาะเลือด รับยา ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น พร้อมทั้งเตรียมปรับภาพลักษณ์โรงพยาบาลให้สวยงาม ทันสมัย ตอบสนองความต้องการประชาชนในทุกด้าน เพื่อให้ผู้มารับบริการประทับใจและกลับบ้านไปด้วยรอยยิ้ม

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง