ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ. ทำงานร่วมกับ สปสช อย่างใกล้ชิดเตรียมให้ข้อมูลการให้บริการส่งเสริมป้องกันโรค ประชาชนกลุ่มนอกสิทธิ์บัตรทองของหน่วยงานในสังกัด ในการชี้แจงทำความเข้าใจกับคกก.กฤษฎีกา 

 

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเพจชมรมแพทย์ชนบทให้ข้อมูลเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาที่ให้ สปสช.บริหารจัดการงบส่งเสริมป้องกันโรคสำหรับบุคคลนอกสิทธิบัตรทอง ว่าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะให้เริ่มบังคับใช้ตามวันที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งอาจทำให้หน่วยบริการที่ให้บริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ไม่สามารถเบิกจ่ายย้อนหลังได้ ว่า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ดสปสช.) ได้มีมติมอบให้สปสช.ดำเนินการยื่นพระราชกฤษฏีกาในการใช้สิทธิ์ด้านส่งเสริมป้องกันโรคของประชาชนกลุ่มนอกสิทธิบัตรทอง เช่น ข้าราชการและประกันสังคม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมดำเนินการและสนับสนุนทีมของสปสช. ตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นจนถึงมีมติให้ออกพระราชกฤษฎีกาเรื่องงบส่งเสริมป้องกันโรค ปี 2566 โดยระหว่างนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้มีข้อสั่งการให้หน่วยบริการในสังกัดจัดบริการส่งเสริมป้องกันโรค และ สปสช.ประสานหน่วยบริการนอกสังกัดจัดบริการ เพื่อมิให้มีผลกระทบต่อประชาชน 

 

สธ. สปสช.ร่วมมือเพื่อประชาชน

 

สำหรับประเด็นเรื่องวันที่มีผลบังคับใช้ร่างพระราชกฤษฎีกา ซึ่งในร่างให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 แต่มีข้อกังวลว่าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาจะให้บังคับใช้ตามวันที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษานั้น สปสช.ได้มีการนำประเด็นดังกล่าวมาร่วมประชุม และกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมการที่จะรวบรวมข้อมูลการให้บริการส่งเสริมป้องกันโรคแก่ประชาชนกลุ่มนอกสิทธิ์บัตรทอง ของหน่วยงานในสังกัด เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนให้สปสช.ประกอบการทำความเข้าใจกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า การจัดบริการด้านส่งสริมสุขภาพและป้องกันโรค เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 แล้ว เนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข และสปสช. จึงเห็นตรงกันว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาควรบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เพื่อให้หน่วยบริการที่ให้บริการแล้วสามารถเบิกจ่ายงบประมาณในการจัดบริการจาก สปสช.ได้ตามความเป็นจริง 

 

ขอประชาชนมั่นใจ อย่าเชื่อข้อมูลเท็จ

 

เรื่องดังกล่าวมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และข้อความที่สื่อสาร จากเพจ “ชมรมแพทย์ชนบท” ไม่เป็นความจริงสปสช.ไม่เคยทักท้วงในประเด็นตามที่เพจดังกล่าว ได้ให้ข้อมูล และขอสื่อสารมายังพี่น้องประชาชน เพจ “ชมรมแพทย์ชนบท” อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย เนื่องจากการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ