ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นโยบายรัฐบาล “แพทองธาร” ด้านสาธารณสุข เดินหน้าออกกฎหมาย “กัญชา” กระตุ้นศก. ยกระดับ “30บาทรักษาทุกที่” เชื่อมโยงข้อมูล  ขยายเครือข่ายสุขภาพปฐมภูมิ พัฒนาระบบการแพทย์ทางไกล  ลดเวลาและค่าใช้จ่าย จัดระบบรองรับสังคมสูงอายุ สานต่อฉีดวัคซีน HPV เพิ่มเข้าถึงบริการสุขภาพจิต บำบัดยาเสพติด

นโยบายสาธารณสุข รัฐบาล "แพทองธาร"

ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมแถลงนโยบายรัฐบาลช่วงวันที่ 12-13 กันยายน 2567 นี้  ซึ่ง 10 นโยบายเร่งด่วน  ทั้ง 1.ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ 2.ส่งเสริมผู้ประกอบการไทย SMEs  3. เร่งออกมาตรการลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค 4. สร้างรายได้ใหม่นำเศรษฐกิจนอกระบบภาษีและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี 5. กระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 6. ยกระดับเกษตรให้ทันสมัย  7. ส่งเสริมการท่องเที่ยว 8. แก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด 9.  แก้ไขปัญหาอาชญากรรม และ10. ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคม

ทั้งนี้ ยังมีนโยบายระยะกลาง และระยะยาว ที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาด้วย ซึ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับด้านการแพทย์และสาธารณสุข สุขภาพของคนไทย อาทิ

เดินหน้าออกกฎหมาย “กัญชา” ทางการแพทย์กระตุ้นศก.  

-ประเด็นส่งเสริมโอกาสในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต  มีประเด็นที่รัฐบาลจะมุ่งเน้น คือ

1.พัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพ (Care and Wellness Economy) และบริการทางการแพทย์ (Medical Hub) โดยต่อยอดจากธุรกิจการท่องเที่ยว เชิงสุขภาพและการแพทย์แผนไทยที่เป็นจุดแข็ง เพื่อรองรับความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น จากการที่ประชากรโลกเข้าสู่สังคมสูงวัย  พร้อมกับส่งเสริมการผลิตและการใช้งานอุปกรณ์ทางการแพทย์ ภายในประเทศ สนับสนุนการยกระดับสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยโดยใช้นวัตกรรม รวมถึงการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มในทางเศรษฐกิจและควบคุมผลกระทบทางสังคม โดยการตรากฎหมาย เป็นต้น

เดินหน้ายกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่

-ประเด็นการส่งเสริมผลักดันให้เกิดการพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัย โดยประเด็นสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องคือ

2. รัฐบาลจะยกระดับระบบสาธารณสุขให้ดียิ่งกว่าเดิม โดยจะต่อยอด และยกระดับระบบสาธารณสุขไทย จาก “30 บาทรักษาทุกโรค” จากพื้นฐานความสำเร็จหลายสิบปี  มาเป็น “30 บาทรักษาทุกที่” ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพในระบบบริการสาธารณสุข และการขยายเครือข่ายการบริการ ระดับปฐมภูมิ พัฒนาระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อให้คนไทยเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ลดเวลาและค่าใช้จ่าย และสามารถรองรับความต้องการใหม่ ๆ จากสถานการณ์สังคมสูงวัย

วัคซีนHPV  เพิ่มเข้าถึงบริการสุขภาพจิต บำบัดยาเสพติด

นอกจากนี้ รัฐบาลจะสานต่อโครงการฉีดวัคซีนปากมดลูก (HPV) ให้ครอบคลุม ทุกพื้นที่ และใช้ศักยภาพของเครือข่ายสาธารณสุขในการส่งเสริม ป้องกัน และควบคุมโรคไม่ติดต่อ พร้อมทั้งเพิ่มการเข้าถึงและบริการด้านสุขภาพจิต และยาเสพติด โดยเน้นการป้องกัน (Prevention) ให้ความรู้และการสร้างความตระหนัก

ภาคผนวก ขยายความ การดำเนินงานตาม รธน.ไทย

ทั้งนี้ ในคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภา ตรงภาคผนวก ขยายความประเด็นเกี่ยวกับสาธารณสุข อาทิ มาตรา 54 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รัฐจะจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค รวมทั้งอุดหนุนค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานของประชาชน ส่งเสริมการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นต้น

มาตรา 55 รัฐบาลจะต่อยอดธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์แผนไทย ที่เป็นจุดแข็ง เพื่อรองรับความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นจากการที่ประชากรโลกเข้าสู่สังคมสูงวัย สนับสนุนยกระดับสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย โดยใช้นวัตกรรม รวมถึงการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มในทางเศรษฐกิจ สนับสนุนการนำเทคโนโลยีสุขภาพ และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีวภาพ มายกระดับมาตรฐานสาธารณสุขไทยให้ทัดเทียมมาตรฐานนานาชาติ เพื่อให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ของภูมิภาค รวมถึงยกระดับสาธารณสุขให้ดียิ่งขึ้นจาก 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น 30 บาทรักษาทุกที่

และขยายเครือข่ายการบริการระดับปฐมภูมิ พัฒนาระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อให้ คนไทยเข้าถึงระบบบริการ สุขภาพที่มีคุณภาพ ตามมาตรฐานสากล ลดเวลาและค่าใช้จ่าย เป็นต้น