ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ชมรม อสส.กทม. คัดค้าน การยกเลิกกฎหมายห้ามนำเข้า ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า ชี้เด็กเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการพัฒนาของสมอง ไม่ควรถูกบ่อนทำลายด้วย "บุหรี่ไฟฟ้า"

ตามที่ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน  “30 บาทรักษาทุกที่ ของกทม.” เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2567 ที่ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ 

ล่าสุด นางวิศัลย์สิริ  ตันตระกูล ประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร (อสส.) นฐานะนักจัดการสุขภาพภาคประชาชน เปิดเผยว่า  อสส.ยอมไม่ได้กับภัยคุกคามของสารเสพติดที่กำลังทำลายสุขภาพของเด็กไทย  ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ  โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าสารเสพติดชนิดใหม่ กลิ่นหอมของมันเข้าถึงสมองได้เร็วมากภายใน 7 วินาที ทำให้สมองเด็กๆ ที่กำลังพัฒนาถูกทำลาย เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ก้าวร้าว บ้าคลั่ง ระยะยาวจะมีอาการซึมเศร้า ป่วยเป็นโรค NCDs ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เส้นลือดสมองตีบ เป็นโรคปอดหายใจกันไม่ได้ อีกทั้งโรคหัวใจและมะเร็ง

ไอของมันทำให้เกิดบุหรี่มือสองมือสาม มีผลกระทบกับหญิงตั้งครรภ์และลูกในท้อง รวมทั้งบุคคลในครอบครัวและบุคคลทั่วไปที่อยู่ร่วมกัน นอกจากนี้บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นประตูนำไปสู่การเสพยาเสพติดอื่นๆ ต่อไป ดังที่มีข่าวการก่ออาชญากรรม หลอน คลุ้มคลั่งทำร้ายพ่อแม่ คนในครอบครัวและเพื่อนบ้าน ปล้น จี้ เผาบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ

บุหรี่ไฟฟ้ากำลังระบาดในเด็กกทม. โดยเฉพาะเด็กที่อยู่นอกระบบในชุมชน และในโรงเรียนสังกัด กทม. 437 แห่ง มีนักเรียนถึง 2.5 แสนคน ที่อสส.ต้องดูแล ซึ่งปัจจุบันพบเด็กที่เข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ามีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ล่าสุดอายุเพียง 7 ขวบ เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ได้เลียนแบบอุปกรณ์การเรียน กล่องนม ตุ๊กตา ของเล่นและขนมต่างๆ ที่เด็กชื่นชอบ ทำให้เด็กถูกจูงใจให้หันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้า นอกจากจะเป็นสารเสพติด ยังไปทำลายสมองของเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการพัฒนาของสมองไม่ควรถูกบ่อนทำลายด้วยบุหรี่ไฟฟ้า

“ทั้งนี้การที่เด็กเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก ดังนั้น อสส.จึงขอคัดค้านรัฐบาล ในการที่จะยกเลิกกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่สิ่งสำคัญที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำอย่างเร่งด่วน คือเข้าไปป้องกันตั้งแต่แรกๆ บังคับใช้กฎหมายห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ทั้งร้านค้าในชุมชนใกล้โรงเรียน และในสื่อออนไลน์ เพื่อปกป้องเด็กไทยจากภัยบุหรี่ไฟฟ้า”

ชมรม อสส.กทม. จึงขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีที่ประกาศต่อต้านยาเสพติดทุกชนิด ขอให้รัฐบาลคงกฏหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งเร่งปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง พร้อมกันนี้ อสส.กทม.ขอมอบดอกไม้ให้กำลังใจกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร รัฐมนตรีสาธารณสุขท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน  ผู้ว่าราชการกทม.ท่านชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ ท่านจเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ในการรักษาและสร้างเสริมสุขภาพชาวกทม. โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนอนาคตของชาติ ทั้งนี้ชมรม อสส.กทม.พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันขจัดบุหรี่ไฟฟ้า ยาสูบ และสารยาเสพติดทุกชนิด ทุกวิถีทางในพื้นที่ทั้ง 50 เขตของกทม. และผนึกทุกกำลังกายกำลังใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ  '30บาทรักษาทุกที่ของกทม.'