ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เผยกรณีผู้ติดเชื้อชาวอินเดียเป็นไปตามการประเมินสถานการณ์ และการวางแผนรับมือแพร่ระบาด ขณะที่ทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่เก็บตัวอย่างบุคคลในครอบครัว 4 คน ผลเป็นลบ

ตามที่ศูนย์ข้อมูล COVID-19 สรุปสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 7 พ.ย. พบผู้ป่วยรายใหม่ 12 ราย โดย 1 ในนั้นเป็นชายชาวอินเดียวัย 37 ปี มีอาการติดเชื้อภายในประเทศ ในพื้นที่ จ.กระบี่นั้น

ล่าสุดวันที่ 7 พ.ย. พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ โพสต์เฟซบุ๊ก กิติบดี ประวิตร Official ถึงกรณีดังกล่าว พร้อมโพสต์ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อรายนี้ อ้างอิงจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ว่า

“วันนี้ เวลาเที่ยง คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ ได้ประชุมสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จังหวัดกระบี่ว่า พบผู้ติดเชื้อรายที่ 21 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งได้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลกระบี่ เป็นนักธุรกิจชาวอินเดีย 1 ราย อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ และได้มีการกักตัวทันทีเมื่อพบอาการเข้าข่าย”

โดยชายคนดังกล่าวเข้ารับการตรวจเมื่อวันที่ 4 พ.ย.63 แต่การตรวจครั้งแรก ผลการตรวจไม่ยืนยันชัดเจน จึงนำตัวอย่างเข้าแลปตรวจซ้ำอีก 2 ครั้ง จึงพบผลเป็นบวก ซึ่งกรณีดังกล่าวยังไม่ยืนยันว่าเป็นเชื้อที่สามารถแพร่ระบาดได้ หรือเป็นซากเชื้อที่ไม่สามารถแพร่ระบาดได้ ต้องรอผลการตรวจสารพันธุกรรมยืนยัน เนื่องจากบุคคลดังกล่าวเข้ามาอยู่ในพื้นที่ระยะหนึ่งแล้ว ขณะที่ทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่เก็บตัวอย่างบุคคลในครอบครัว 4 คน ตรวจเชื้อพบผลเป็นลบ และนำผู้สัมผัสทุกรายที่ได้จากการสอบสวนโรคเข้าตรวจเชื้อและกักตัวไว้

“ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กรณีนี้เป็นไปตามที่จังหวัดกระบี่ได้ประเมินสถานการณ์ และวางแผนรับมือการแพร่ระบาดล่วงหน้า หลังจังหวัดไม่พบเชื้อมาระยะหนึ่งแล้ว แต่จังหวัดกระบี่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีมาตรการเข้มเฝ้าระวังโดย อสม.ทุกพื้นที่ และมีการสุ่มตรวจในพื้นที่ที่คาดว่า จะมีความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในการพบเชื้อครั้งนี้ ทีมสอบสวนโรคได้ลงพื้นที่ทันที และนำผู้สัมผัสทั้งหมดรวมประมาณ 20 คน มาตรวจหาเชื้อและกักตัวไว้ รอการตรวจซ้ำครั้งที่ 2 และ ครั้งที่ 3 จนมั่นใจ”

ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนัก ขอให้มั่นใจว่า จังหวัดกระบี่มีความพร้อมในการควบคุม ป้องกัน และ การรักษาที่มีประสิทธิภาพ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนมั่นใจในศักยภาพของหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดกระบี่ ว่าจะสามารถควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดได้ และให้ประชาชนต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อเนื่องต่อไป ทั้งการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการเข้าไปยังแหล่งชุมชน ผู้คนหนาแน่น หากจะเข้าไปต้องป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ต้องผ่านการคัดกรอง วัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ สแกน คิวอาร์โค้ด ไทยชนะ และโหลด แอป หมอชนะ ไว้ในโทรศัพท์มือถือเพื่อสามารถเตือนเมื่อเข้าใกล้ผู้ติดเชื้อ หรือตรวจสอบข้อมูลการเคลื่อนที่ของตนเอง เพราะหากเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง จะได้รับการดูแลและตรวจสอบความเสี่ยงจากสาธารณสุข และที่สำคัญคือการปฏิบัติตนเพื่อเป็นแบบอย่างและสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว

ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก : กิติบดี ประวิตร Official [1]