ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แนวหน้า - กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าสานงานอาหารปลอดภัย ต่อยอดจากเทศกาลตรุษจีน ย้าผู้บริโภคควรตระหนักในความสะอาดและความปลอดภัยของอาหาร โดยเฉพาะการบริโภคผักและผลไม้ควรล้างให้สะอาดก่อนกินหรือปรุงเป็นอาหาร เพื่อจะได้ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลงตกค้างต้นเหตุโรคมะเร็งเต้านม พร้อมแนะคนไทยให้กินผักอย่างน้อย วันละ 400 กรัมเพื่อลดเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

ดร.นพ.พรเทพ ศิริ วนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนที่เพิ่งผ่านไป กรมอนามัยได้จัดกิจกรรมขึ้นในหลายพื้นที่เพื่อรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจ ให้ประชาชนสามารถเลือกซื้ออาหารสาหรับเซ่นไหว้บรรพบุรุษและเพื่อประกอบปรุงเลี้ยงฉลองเทศกาลตรุษจีนร่วมกับญาติพี่น้องได้อย่างปลอดภัย และถึงแม้เทศกาลตรุษจีนจะผ่านไปแล้ว แต่การเฝ้าระวังในเรื่องของความปลอดภัยด้านอาหารก็ยังต้องดาเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในการบริโภคผักและผลไม้ ที่คนไทยมีการบริโภคกันตลอดทั้งปี

โดยขอแนะนาว่าการกินผักแต่ละครั้งผู้บริโภคควรคานึงถึงความปลอดภัยและอันตรายจากสารเคมีตกค้างหรือการสะสมจากยาฆ่าแมลง ยาฆ่าวัชพืชที่เป็นสาร ก่อมะเร็งโดยเฉพาะยาฆ่าแมลงจาพวกคลอริเนตเตทไฮโดรคาร์บอน (Chlorinated hydrocarbon) หรือเรียกว่าออร์กาโนคลอรีน (organochlorine) ได้แก่ อัลดริน เคลเธน ดีดีที คลอเดน ดรีลดริน เป็นต้น เนื่องจากสารเหล่านี้ใช้กาจัดแมลงได้หลายชนิด อยู่ในธรรมชาติได้นานไม่สลายตัวง่าย ก่อให้เกิดปัญหาสารพิษตกค้างและเป็นอันตรายมาก เมื่อได้รับสารนี้ในปริมาณมากจะทาให้เวียนศีรษะ หน้ามืด ท้องร่วง อาจเกิดหัวใจวายและตาย แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อย ๆ ค่อย ๆ สะสมในร่างกายจะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งได้

ส่วนการเลือกกินผักนั้นขอแนะนาให้หลีกเลี่ยงกินผักนอกฤดูกาล เนื่องจากพบว่ามีการใช้สารเคมีมากกว่าผักตามฤดูกาล โดยก่อนกินผักหรือนามาปรุงอาหารทุกครั้ง ควรนามาล้างนาให้สะอาด เพื่อป้องกันสารเคมีและยาฆ่าแมลงตกค้าง ด้วยการลอกเปลือกด้านนอกออกล้างผ่านนาก๊อกที่ไหลนาน 2 นาที หรือแช่ในนาผสมเกลือ หรือน้าผสมนาส้มสายชู ทิ้งไว้นาน 10-15 นาที หรือ แช่ในนาผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อนา 1 กะละมัง หรือน้าประมาณ  4 ลิตร จากนั้นนาผักมาล้างน้าสะอาดอีก 2-3 ครั้ง เพื่อให้สารพิษที่ตกค้างออกให้หมดช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งโดยเฉพาะโรคมะเร็งเต้านม

"ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกแนะนาว่าควรกินผักและผลไม้ให้ได้อย่างน้อยวันละ 400 กรัม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆเช่น หัวใจขาดเลือด  เส้นเลือดในสมองตีบและมะเร็งบางชนิด ในผู้ใหญ่ควรกินผัก 18 ช้อนต่อวันหรือ 6 ทัพพี ส่วนเด็กไทยควรกินผักให้ได้ 12 ช้อนต่อวัน โดยแนะนาให้กินผักหลากหลายชนิดเพราะผักมีใยอาหารหรือเส้นใย ช่วยทาความสะอาดลาไส้และช่วยลดการดูดซึมไขมัน คอเลสเตอรอลในเลือด มีวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยปรับสมดุลเอนไซม์และฮอร์โมนในร่างกายให้ทางานมีประสิทธิภาพให้สารพฤษกษเคมีที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง บางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์และเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วย" อธิบดีกรมอนามัยปิดท้าย

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า  วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557