ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

วันนี้ (18 เมษายน 2557) เวลา 09.00 น. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะได้เดินทางมาพบศาสตราจารย์ ดร. ภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. และศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษกของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอข้อแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ที่เห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้วในการที่จะปรับปรุงเรื่องธรรมาภิบาลและการบริหารทรัพยากรบุคคลให้เกิดขึ้นในกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งเพื่อขอทราบแนวทางของการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะผู้ดูแลเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตโดยตรง

ศาสตราจารย์ ดร. ภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะผู้ดูแลยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้ขอให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามแนวทางที่ได้เคยลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (MOU) เมื่อปี 2553 ในส่วนของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติโดยพลังเครือข่าย อสม.ที่มีอยู่ประมาณสามล้านกว่าคน นอกจากนี้ ขอให้สร้างกลไกความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานด้วยการเปิดเผยราคากลางตามมาตรา 103/7 ตามที่พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 กำหนดให้ดำเนินการจัดทำข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโดยเฉพาะราคากลางและการคำนวณราคากลางไว้ในระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูได้ รวมทั้งเชิญให้เข้าร่วมเป็นหน่วยงานนำร่องในการนำเครื่องมือระบบประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity Transparency Assessment: ITA) มาใช้ในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับกระทรวงอื่น ๆ ในการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส

ส่วนในกรณีที่ได้ดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของสำนักงาน ป.ป.ช.นั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการทุจริต โดยเฉพาะการเร่งรัดแก้ไขปัญหาการทุจริตในการจัดซื้อยา ด้วยการวางระบบการจัดซื้อยาและดำเนินการให้มีการสำรวจข้อมูลสารตั้งต้นยาเสพติดที่มีทั้งหมดเพื่อกำกับดูแลให้มีประสิทธิภาพต่อไป

ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ได้ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้ในการป้องกันการทุจริต โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ด้านพัสดุ ด้านงบประมาณ และด้านการคลัง และดำเนินการในด้านการบังคับใช้ประมวลจริยธรรมสำหรับผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขให้มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับคดีที่อยู่ในระหว่างการไต่สวนเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขก็เห็นพ้องกันว่าควรให้มีการประสานงานระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับสำนักงาน ป.ป.ช.ในอันที่จะเร่งรัดในเรื่องการติดตามข้อมูลพยานและหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีคดีที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช.จำนวน 140 เรื่อง ซึ่งจะเร่งรัดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว

นอกจากนี้ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขมีสถาบันที่เกี่ยวกับการฝึกอบรมและการให้การศึกษาที่อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงาน จึงเห็นควรว่าให้มีการลงนามความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. กับสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในการป้องกันการทุจริต

อนึ่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอแสดงความชื่นชมต่อบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขที่กล้ายืดหยัดปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อความถูกต้อง ซึ่งจะเป็นแบบอย่างให้กับหน่วยงานอื่นต่อไป