ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กพย.ห่วงร่าง พรบ.ยา ฉบับใหม่ เหตุขาดการรับฟังความเห็น การมีส่วนร่วมภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง หลังบังคับใช้อาจสร้างปัญหา ไม่คุ้มครองประชาชนเท่าที่ควร แนะนำร่างพ.ร.บ.ยาฉบับประชาชน ใช้เป็นหลักการเพื่อจัดทำร่าง พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่จะดีกว่า

ดร.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี

ดร.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานกลไกเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการคัดค้านร่าง พรบ.ยา พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เตรียมที่จะเสนอร่าง พรบ.ยา พ.ศ. .... ฉบับใหม่ เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายหลังผ่านการแก้ไขและพิจารณาของทางคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า มองว่ากระบวนการดำเนินการของทาง อย.มีความเร่งรีบ ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีกระบวนการเปิดรับฟังความเห็น ทั้งที่ต้องดำเนินการตั้งแต่เริ่มแรก จนกระทั่งผ่านการพิจารณาชั้นกฤษฎีกา ทั้งยังไม่มีการเปิดเผย ซึ่งที่ผ่านมาทาง กพย. ได้ขอร่าง พรบ. ยา พ.ศ. ... ที่ทางกฤษฏีกาพิจารณาก็ยังไม่ได้รับ ทำให้เกิดความกังวล ทั้งนี้เท่าที่ทราบ เห็นว่า ร่าง พรบ.ยา ฉบับใหม่นี้ มีข้อบกพร่องค่อนข้างมาก ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้าน โดยเฉพาะจากทางกลุ่มเภสัชกรรม  

รศ.ดร.นิยดา กล่าวว่า ประเด็นที่ต่างเป็นห่วง ได้แก่ การควบคุมการส่งเสริมการขายยา ที่กำหนดแบบหลวมๆ คับแคบ ไม่รัดกุม โดยนำไปไว้รวมกับหมวดควบคุมการโฆษณษ การอนุญาตให้ต่ออายุทะเบียนตำรับยาโดยไม่มีการทบทวนทะเบียนตำรับยา การยกเว้นให้ผู้ประกอบวิชาชีพผสมยาได้ไม่ต้องขึ้นทะเบียนตำรับยา, การไม่มีข้อห้ามการผลิตและการขายยาชุด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ไม่กระทบแต่ผู้ที่อยู่ในวงวิชาชีพเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อประโยชน์ในด้านสิทธิการคุ้มครองซึ่งอาจสร้างปัญหาตามมาได้

“เดิมเคยมีการนำเสนอร่าง พรบ.ยา เพื่อปรับปรุงแก้ไขตั้งแต่เมื่อปี 2545 เนื่องจาก พรบ.ยา ปัจจุบันใช้มาตั้งแต่ปี 2510 ซึ่งถือว่าล้าสมัยมาก จำเป็นต้องมีการกำหนดขึ้นใหม่ แต่หลังจากนำเสนอไปแล้ว จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งมีการนำเสนอ ร่าง พรบ.ยา ฉบับใหม่นี้ แต่ทั้งนี้ก็ควรจะทำให้ดีตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดช่องว่างหรือปัญหาและมาปรับแก้ภายหลัง ซึ่งการแก้ไขกฎหมายเป็นที่ทราบว่ายุ่งยาก” ผู้จัดการแผนงานกลไกเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) กล่าว

ดร.ภญ.นิยดา กล่าวว่า ทั้งนี้ อย.ควรเปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่แรก ไม่ใช่จะมารับฟังความเห็นหลังจากที่ผ่านกฤฏีกาแล้ว อีกทั้งหากนำเข้า สนช. แม้ว่าจะปรับแก้ไข แต่เป็นการแก้ไขรายมาตรา อาจทำให้ไม่ได้เนื้อหาที่สมบูรณ์ และหลังบังคับใช้อาจเป็นปัญหาได้อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับประชาชน เป็นการจัดทำขึ้นโดยภาคประชาชนและนักวิชาการด้านยา ที่ครอบคลุมทุกด้าน มุ่งเน้นไปที่การคุ้มครองและดูแลประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักในการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ยา ได้