ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข เปิดอาคารคลังวัคซีนมาตรฐานของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นสถานที่จัดเก็บวัคซีนมาตรฐานที่มีระบบจัดเก็บและกระจายวัคซีนตามมาตรฐานสากล เพื่อบริการให้กับห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพวัคซีนภาครัฐและโรงงานผลิตวัคซีนของภูมิภาค ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนวัคซีนมาตรฐาน และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.57 ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.นนทบุรี นพ.เทียม อังสาชน ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดอาคารคลังวัคซีนมาตรฐานของภูมิภาคซึ่งเป็นสถานที่จัดเก็บวัคซีนมาตรฐานที่มีระบบจัดเก็บและกระจายวัคซีนตามมาตรฐานสากลสำหรับห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์วัคซีนของประเทศไทยและภูมิภาค  เพื่อช่วยสนับสนุนการควบคุมคุณภาพวัคซีนของหน่วยงานควบคุมกำกับดูแลวัคซีนภาครัฐและผู้ผลิตของประเทศสมาชิกให้มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเดียวกัน สามารถสอบกลับได้ในระดับสากล นอกจากนี้การจัดเตรียมวัคซีนมาตรฐานยังช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนวัคซีนมาตรฐานของประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีการพัฒนาการผลิตวัคซีนชนิดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นและวัคซีนมาตรฐานสากลมีราคาแพง จำนวนจำกัดและบางชนิดยังไม่มีการผลิตโดยห้องปฏิบัติการขององค์การอนามัยโลก เนื่องจากเป็นวัคซีนป้องกันโรคที่เป็นปัญหาสาธารณสุขเฉพาะภูมิภาค เช่นวัคซีนไข้สมองอักเสบ เจอี

นพ.เทียม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดอาคารคลังวัคซีนมาตรฐานของภูมิภาค ว่า โครงการจัดสร้างคลังวัคซีนมาตรฐานของภูมิภาคได้รับความเห็นชอบจากองค์การอนามัยโลกและสมาชิกเครือข่ายห้องปฏิบัติการว่าประเทศไทย มีศักยภาพมากกว่าประเทศอื่นๆ  กระทรวงสาธารณสุข จึงเสนอโครงการจัดสร้างคลังวัคซีนของภูมิภาค ต่อมาได้ถูกบรรจุในวาระแห่งชาติด้านวัคซีนโดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2554  โดยเริ่มก่อสร้างในปี 2556   ในพื้นที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยออกแบบเป็นอาคาร 2 ชั้นมีขนาดพื้นที่ใช้สอยรวม 308 ตารางเมตรและการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2557 รวมใช้งบประมาณทั้งสิ้น 7.8 ล้านบาท คลังเก็บวัคซีนมาตรฐานแห่งนี้นอกจากจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการควบคุมคุณภาพวัคซีนของหน่วยงานควบคุมกำกับดูแลวัคซีนภาครัฐและผู้ผลิตของประเทศสมาชิกให้มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเดียวกันแล้ว ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งที่แสดงถึงศักยภาพของการเป็นผู้นำของประเทศไทยในการบริหารจัดการวัคซีนมาตรฐานของภูมิภาคอีกด้วย

ปัจจุบันวัคซีนมาตรฐานของภูมิภาคที่ได้มีการจัดเก็บในประเทศไทย โดย สถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คือ วัคซีนมาตรฐานสำหรับวัคซีนป้องกันโรคไอกรน สำหรับวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ ทัยป์ 1 และประเทศไทยได้จัดเตรียมวัคซีนมาตรฐานของภูมิภาคสำหรับวัคซีนป้องกันโรคเจ อี เชื้อเป็นชนิด Chimeric ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของการสอบเทียบร่วมกันเพื่อกำหนดค่าอ้างอิงมาตรฐาน โดยมีห้องปฏิบัติการภาครัฐที่ร่วมดำเนินการทั้งหมดจาก 7 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ จีน เวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซียและ ไทย และมี National Institute of Biological Standardization and Control (NIBSC) ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการขององค์การอนามัยโลกในการจัดเตรียมวัคซีนมาตรฐานสากลเป็นที่ปรึกษา

นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันชีววัตถุ ในฐานะห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพวัคซีนภาครัฐของประเทศ ได้เพิ่มศักยภาพของการเป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิงโดยได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO guide 34: 2009 ว่าด้วยการผลิตวัคซีนมาตรฐานสำหรับวัคซีนป้องกันโรคคางทูม ในปี 2557 ซึ่งถือเป็นหน่วยงานแรกของประเทศที่ได้รับการรับรองในเรื่องการผลิตวัสดุอ้างอิงทางการแพทย์และสาธารณสุข