ยันสุขภาพเป็นสิทธิพื้นฐาน ไทยมาไกลเกินกลับไปเป็นสงเคราะห์

‘สารี’ ยันบริการสาธารณสุขเป็นสิทธิพื้นฐานของทุกคน ไม่ใช่ระบบสงเคราะห์ให้คนจน ชี้ สธ.-สปสช.ต้องทำหน้าที่มากกว่านี้ในการสนับสนุนข้อมูลให้นายกฯ เข้าใจ แนะทำระบบภาษีการเงินการคลังเพื่อรองรับระบบหลักประกันสุขภาพสำหรับทุกคน แจงไทยลงทุนด้านสุขภาพให้ประชาชนน้อยมาก และสังคมไทยมาไกลเกินกว่าจะกลับไปเป็นระบบสังคมสงเคราะห์แล้ว

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ โพสต์ใน Facebook ส่วนตัว แสดงความคิดเห็น กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ระบุให้คนรวยเสียสละไม่ใช้สิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อทำกุศลให้คนจน (ดูข่าว ที่นี่) ระบุว่า “กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้มากกว่านี้ในการสนับสนุนข้อมูลท่านนายกรัฐมนตรี เพราะบริการสาธารณสุขเป็นสิทธิพื้นฐานของทุกคน ไม่ใช่ระบบสงเคราะห์ให้เฉพาะคนจน และเราควรทำระบบภาษีการเงินการคลังทางสังคมเพื่อรองรับระบบหลักประกันสุขภาพของทุกคน ที่ผ่านมาสังคมไทยทะเลาะกันเรื่องนี้มาก รวมทั้งส่งผลต่อการโยกย้ายปลัด สธ.และสอบสวนการใช้เงินของ สปสช.

“จุดยืนเรื่องสุขภาพว่าบริการสุขภาพควรจัดให้เฉพาะคนจนหรือเป็นของทุกคนถกเถียงกันมานาน รัฐธรรมนูญที่กำลังยกร่างกันในปัจจุบัน ทำให้เกิดความชัดเจนเรื่องนี้ต้องช่วยกันสนับสนุน ส่วนความโปร่งใสของ สปสช. ดิฉันเองมีโอกาสแลกเปลี่ยนกับคุณหมอกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรี จังหวัดมหาสารคาม ได้คุยกันและเราก็ได้เห็นตรงกันว่า การใช้จ่ายเงินของสปสช. ควรเป็นตัวอย่างของหน่วยงานของรัฐในประเทศนี้ที่มีส่วนร่วมของประชาชนและโปร่งใสที่สุดในบรรดาหน่วยงานรัฐทั้งหมด” นางสาวสารี กล่าว

สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ยังได้ระบุอีกว่า นอกจากนี้ใครที่กลัวว่า เราจะล้มละลาย เราใช้เงินในระบบสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ เราจะไม่มีเงิน ต้องเก็บเงินจากประชาชน การใช้เงินด้านสุขภาพเป็นการลงทุนของประเทศให้สามารถมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ประเทศไทยยังนับว่า ลงทุนด้านสุขภาพน้อยมาก เราใช้เงินเพียง100 เหรียญสหรัฐต่อปี ขณะที่ประเทศอเมริกาและอังกฤษ ใช้เงินมากถึง 8,362 และ 4,380 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปีตามลำดับ

“เรามาไกลเกินที่จะกลับไประบบสังคมสงเคราะห์ ยิ่งต้องพัฒนาระบบสวัสดิการทางสังคม ท่ามกลางสังคมสูงวัยในปัจจุบัน”