ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมการแพทย์ยกร่างแนวทางตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสมสำหรับประชาชน เชื่อประชาชนได้ประโยชน์ในการเลือกบริการตรวจสุขภาพที่เหมาะสม พร้อมเตรียมนำเข้าเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 8 วันที่ 21-23 ธ.ค.นี้ นำร่องใช้เป็นมาตรฐานในโรงพยาบาลสังกัด สธ.

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558 สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จัดการประชุมสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วย “แนวทางการตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสมสำหรับประชาชน” ณ อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี ร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาการตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสมสำหรับประชาชน กระทรวงสาธารณสุข

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาการตรวจสุขภาพฯ กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยมีการตรวจสุขภาพที่เกินจำเป็นจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องการสร้างมาตรฐานการตรวจสุขภาพขึ้น เพื่อเป็นแนวทางสำหรับแพทย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการตรวจสุขภาพสำหรับประชาชนได้อย่างเหมาะสม

นพ.สุพรรณ กล่าวว่า กรมการแพทย์ ได้ศึกษาวิจัยและรับฟังความเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นำมาสู่การยกร่างแนวทางการตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสมสำหรับประชาชน พร้อมนำเข้ากระบวนการรับฟังความคิดเห็นในเวทีสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น หลังจากนั้นจะกลับไปปรับปรุงอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ และจัดทำเป็นคู่มือเพื่อสื่อสารไปยังประชาชนทุกช่องทาง รวมถึงนำไปดำเนินการ โดยเริ่มจากโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ และกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้แนวทางฯ ที่เสร็จเรียบร้อยแล้วยังนำไปพิจารณาเพื่อการวางระบบการตรวจสุขภาพสำหรับทั้ง 3 กองทุนสุขภาพหลัก ได้แก่ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนประกันสังคม และระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ หรือสวัสดิการของหน่วยงานต่างๆ ต่อไป

“แนวทางการตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสมสำหรับประชาชนนี้ ไม่ได้เป็นภาคบังคับ แต่เป็นการวางมาตรฐานที่เหมาะสมกับประเทศไทย และเป็นแนวทางให้ทุกภาคส่วน และประชาชนได้นำไปใช้”

นพ.อำพล จินดาวัฒนะ

นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า แนวทางการตรวจสุขภาพที่จำเป็นและเหมาะสมสำหรับประชาชน อยู่บนพื้นฐานของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ประกอบด้วย “3 ห่วง 2 เงื่อนไข” คือ ความพอดี พอประมาณ มีเหตุมีผล และมีสำนึกในสิ่งที่กำลังทำ บนฐานของความรู้และคุณธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพ

“ในช่วงปีใหม่ เราจะพบการโฆษณาชวนให้ซื้อแพ็คเกจตรวจสุขภาพเป็นของขวัญให้แก่คนรัก บางแพ็คเกจราคาแพงถึง 2-4 หมื่นบาท ซึ่งมักเป็นการตรวจสุขภาพที่เกินจำเป็น ดังนั้น แนวทางการตรวจสุขภาพฉบับนี้จึงเป็นแนวทางที่ดี ที่จะปรับให้การตรวจสุขภาพของประชาชนอยู่บนหลักของความพอดี พอเพียง มากขึ้น” นพ.อำพล กล่าว

นพ.วิวัฒน์ โรจนพิทยากร

นพ.วิวัฒน์ โรจนพิทยากร ประธานคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น กล่าวว่า ปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพ บางครั้งสูงกว่าการตรวจวินิจฉัยหรือตรวจเพื่อรักษาโรคด้วยซ้ำ ซึ่งจากประสบการณ์ของตนเองพบว่า การตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาโรคหัวใจ หรือแพ็คเกจประเมินหัวใจในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งมีราคาสูงถึง 15,000 บาท ขณะที่ไปตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรคหัวใจโดยตรงในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง มีค่าใช้จ่ายเพียงพันกว่าบาทเท่านั้น

ดังนั้น แนวทางการตรวจสุขภาพที่จำเป็นฉบับนี้ จึงมีความสำคัญ และต้องขอฉันทามติในเวที สมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 8 พ.ศ.2558 วันที่ 21-23 ธันวาคมนี้ เพื่อให้เกิดการยอมรับ ก่อนนำไปเผยแพร่ให้เกิดการนำไปใช้ได้จริง ขณะเดียวกัน ต้องมีการปรับปรุงตลอดเวลาให้สอดคล้องกับสถานการณ์และมีความทันสมัย

“แนวทางการตรวจสุขภาพดังกล่าวจะมีประโยชน์ต่อประชาชนทุกกลุ่มวัย ซึ่งรวมถึงตัวเราเองด้วย”