ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อดีต สว.สมุทรสงคราม แจงร่วมเขียนไปรษณียบัตรถึงนายกฯ คืนความเป็นธรรม “หมอวินัย” เหตุผลตรวจสอบชี้ไม่มีความผิด เปิดทางให้คนดีรู้สึกมีที่ยืน พร้อมทวงถามคำพูดนายกฯ ไม่ควรกลัวตรวจสอบ หากสอบแล้วไม่ผิดให้กลับมาทำงานได้ ด้านตัวแทนภาคประชาชน จ.ขอนแก่น ขอนายกฯ คืนศักดิ์ศรี “หมอวินัย” ชี้เป็นผู้มุ่งมั่นพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อประชาชน

น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และอดีต ส.ว. สมุทรสงคราม กล่าวถึงสาเหตุที่ได้ร่วมเขียนไปรษณียบัตรเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ นพ.วินัย สวัสดิวร กลับทำหน้าที่ตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ว่า เมื่อผลการตรวจสอบการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติออกมาแล้ว โดยการตรวจสอบคณะกรรมการหลายชุดและทุกชุดสรุปแล้วว่า ไม่พบความผิดใดๆ จึงควรคืนตำแหน่งให้ นพ.วินัย ที่ถูกย้ายโดยคำสั่ง ม.44 เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเองได้ให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่าไม่ควรกลัวการตรวจสอบ และหากตรวจสอบแล้วไม่ผิดก็ให้กลับมาทำงานได้ ดังนั้นนายกรัฐมนตรีควรทำตามคำพูดที่ให้ไว้ จึงเป็นที่มาของการร่วมเขียนไปรษียบัตรครั้งนี้   

ทั้งนี้ยืนยันว่าการออกมาเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องตัวบุคคล เพราะเราไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกับ นพ.วินัย เพียงแต่เราอยู่ในกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ และที่ผ่านมาในช่วงที่ นพ.วินัย ปฏิบัติหน้าก็ไม่ได้ทำอะไรให้ สปสช.เสียหาย ดังนั้นในกรณีนี้ แม้จะไม่ใช่ นพ.วินัย หากเป็นคนอื่น หากไม่ได้ทำผิดอะไร เราก็คงออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้เช่นกัน   

ต่อข้อซักถามว่า หากยังไม่มีการคืนตำแหน่งให้ นพ.วินัย โดยปล่อยให้หมดวาระไปก่อนมองอย่างไร น.ส.บุญยืน กล่าวว่า ต้องถามว่าถ้าคนไม่ผิดแล้วไม่คืนความยุติธรรมให้ แต่กลับปล่อยให้หมดวาระไป ซึ่ง นพ.วินัยก็จะหมดวาระในเดือนพฤษภาคม 2559 คงต้องถามว่าแล้วแบบนี้คนดีจะมีที่ยืนตรงไหน แล้วใครในประเทศจะมีกำลังใจทำดีได้ เพราะที่ผ่านมา นพ.วินัย ถูกย้ายโดย ม.44 และอ้างว่าเป็นการเปิดทางเพื่อตรวจสอบ ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี จึงควรคืนความเป็นธรรมให้ด้วย

“วันนี้หากนายกรัฐมนตรีไม่ย้าย นพ.วินัย กลับมาและยังคงดองไว้เช่นเดิม สะท้อนว่า ที่นายกฯ บอกว่าจะเข้ามาปราบคอรัปชั่น ข้อเท็จจริงแล้วเป็นเพียงแค่การเลือกข้างเท่านั้น”  อดีต สว.สมุทรสงคราม กล่าว

นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังจากคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) เข้าตรวจสอบการบริหาร สปสช. และสรุปว่าไม่มีเรื่องทุจริตก็น่าจะให้ นพ.วินัยกลับมาทำหน้าที่เลขาธิการ สปสช. โดยอยากให้นายกรัฐมนตรีใช้ ม.44 ย้ายกลับ หลังจากที่ได้ใช้มาตราเดียวกันนี้สั่งย้าย นพ.วินัยก่อนหน้านี้ ทั้งนี้เพื่อลดความกังวลของภาคประชาชนที่ร่วมกันทำงานในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งต่างกังวลว่าอาจมีการแทรงแซงการทำงานของระบบได้ จึงได้ร่วมกันเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ นพ.วินัย และช่องทางที่พอทำได้ในช่วงที่มี พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะคือการส่งไปรษณียบัตรเพื่อแสดงจุดยืน 

“การย้าย นพ.วินัย กลับมา เป็นการยืนยันผลสอบของ คตร.ต่อสาธารณะว่า สปสช.ไม่ได้ทุจริต ทั้งยังเป็นการคืนศักดิ์ศรีให้กับ นพ.วินัย ในฐานะผู้ซึ่งทำงานมุ่งมั่นพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามาโดยตลอด เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาลตามเจตนารมณ์ของ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ผู้ผลักดันระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ดังนั้นจึงควรให้ความธรรมกับ นพ.วินัย ในเรื่องนี้” นายปฏิวัติ กล่าว