ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แพทย์จุฬาโต้ สบส.ชี้ถูกอ้างเห็นด้วยร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยเซลล์บำบัดที่กำลังจะเสนอเข้า ครม. เผยประชุมแค่ 2 ครั้ง เพื่อปรึกษาหารือเท่านั้น ไม่ใช่กรรมการยกร่างหรือแก้ไขร่างกฎหมาย พร้อมเสนอให้ส่งแพทยสภาพิจารณาเนื้อหาใหม่ให้รอบคอบ หวั่นส่งผลกระทบ เสี่ยงต่อสุขภาพประชาชน

จากกรณี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอรวมร่างกฎหมายระหว่าง พ.ร.บ.เซลล์ทางการแพทย์ของ สบส.และ ร่าง พ.ร.บ. เซลล์บำบัด พ.ศ. ...ของแพทยสภาให้รัฐมนตรีพิจารณาก่อนเสนอเข้า ครม.ในเดือนมิถุนายนนี้ โดยอ้างแพทยสภาและคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นด้วยนั้น

ผศ.นพ.ถนอม บรรณประเสริฐ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมกับ สบส. กล่าวว่า ได้รับเชิญเป็นการส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะที่เห็นว่า การประชุมรวมร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนั้น มีขั้นตอนการปฏิบัติแก้ไขร่างกฎหมายไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการเชิญประชุมเพื่อปรึกษาหารือ ไม่ใช่กรรมการยกร่างหรือแก้ไขร่างกฎหมาย

นอกจากนี้ การประชุมมีเพียง 2 ครั้ง ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จากภายนอก สบส.เพียง 1-2 ท่าน ซึ่งแต่ละท่านได้เข้าร่วมประชุมเพียงครั้งเดียว ทำให้ไม่มีใครได้รับข้อมูลการร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยเซลล์บำบัดอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เห็นด้วยกับการประกาศของ สบส.ว่าที่ประชุมเห็นชอบในการร่าง พ.ร.บ.เซลล์บำบัด เพราะการนำผลประชุม 2 ครั้งดังกล่าวมาสรุปร่างฯ นั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

ส่วนการที่ สบส.อ้างว่า ร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ มีเนื้อหาใกล้เคียงสอดคล้องกันก็ไม่เป็นความจริง เพราะร่างฯ ของแพทยสภายึดหลักการสากลคือ ใช้ระดับความอันตรายที่เสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนเป็นตัวกำหนดระดับความเข้มงวดในการควบคุม ส่วนร่างฯ ของ สบส.ใช้หลักการควบคุมสถานพยาบาลมาใช้ควบคุมแพทย์ด้วยวิธีขึ้นทะเบียน ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักสากล และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อวงการแพทย์ทั้งประเทศอย่างมาก ฉะนั้นการรวมร่างกฎหมายไม่ใช่แค่การนำเอามาตราต่างๆ มารวมกัน แต่ต้องอาศัยการยึดหลักทาง