ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560–2573 เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาหลักการ ไม่เลือกปฏิบัติในการสมัครเข้าเรียนและการเรียนอันเนื่องมาจากเอชไอวีและเอดส์ เพื่อให้สถานศึกษาทุกสังกัดใช้เป็นแนวปฏิบัติต่อไป

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2559 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ครั้งที่ 2/2559 ว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ ร่างยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560– 2573 ที่กำหนดวิสัยทัศน์ “การร่วมยุติปัญหาเอดส์ ภายในปี 2573 ที่คำนึงถึงหลักการสิทธิมนุษยชน และความเสมอภาคระหว่างเพศ” ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ เพื่อบรรลุเป้าหมาย 3 ลด ในปี 2573 คือ  

1. ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้เหลือปีละไม่เกิน 1,000 คน  

2. ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวีเหลือปีละไม่เกิน 4,000 คน

3. ลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศภาวะลงร้อยละ 90

นอกจากนี้ ได้เห็นชอบในหลักการของร่างนโยบาย การไม่เลือกปฏิบัติในการสมัครเข้าเรียนและการเรียนอันเนื่องมาจากเอชไอวีและเอดส์ เพื่อแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติต่อเด็กที่มีเชื้อเอชไอวีหรือสงสัยว่ามีเชื้อ เป็นแนวทางให้สถานศึกษาทุกสังกัดใช้เป็นแนวปฏิบัติ โดยมอบให้กรมควบคุมโรค ปรับวิธีการเขียนให้มีความเหมาะสมก่อนประกาศใช้ต่อไป พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าว และรายงานความคืบหน้าในที่ประชุมครั้งต่อไป    

ทั้งนี้ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้คาดประมาณจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ (AIDS Epidemic Model และ SPECTRUM) สรุปสถานการณ์เอชไอวีของประเทศไทยเมื่อถึงสิ้นปี 2558 ประมาณการจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ 437,700 คน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 6,900 คน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เสียชีวิต 16,160 คน และข้อมูลการติดตามจากระบบบริการฯ พบว่า ณ สิ้นปี 2558 มีจำนวนผู้ติดเชื้อฯ ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอยู่ทั้งสิ้น 288,231 คน (ข้อมูลจากรายงานความก้าวหน้าระดับประเทศ การดำเนินงานยุติปัญหาเอดส์ประเทศไทย ปี 2016)