ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เห็นชอบ 5 มาตรการเฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายปลอดเหล้า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560 อย่างเคร่งครัด พร้อมตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนบุหรี่และสุรา หากพบทำผิดแจ้งเรื่องได้ที่สายด่วน 1422

พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติครั้งที่ 1/2560

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบกับเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ มาตรการเฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560 เนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 – 2559 พบผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการจราจรทางถนน 137,385 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 44,590 คน คิดเป็นร้อยละ 32.5 ซึ่งการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดในวันที่ 13 เมษายน และเป็นกลุ่มเยาวชนอายุ 15 – 19 ปีสูงสุด

ดังนั้น ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับทุกหน่วยงานภาครัฐ กำหนด 5 มาตรการเฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายปลอดเหล้า ช่วงสงกรานต์อย่างเคร่งครัด ได้แก่

1.ห้ามดื่มบนทางในขณะขับขี่หรือโดยสาร

2.ห้ามขายให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์

3.ห้ามขายนอกเวลาที่กฎหมายกำหนด

4.มุ่งเน้นเฝ้าระวัง ตรวจเตือน ประชาสัมพันธ์กฎหมายเน้นจังหวัดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนบุหรี่และสุรา หากพบทำผิดแจ้งเรื่องได้ที่สายด่วน 1422 หรือ 02-590-3342

และ 5.เฝ้าระวังรายงานผลการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากพิษภัยแอลกอฮอล์

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบกับแผนปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ พ.ศ. 2560 – 2563 และกลไกการขับเคลื่อน ติดตามประเมินผลการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการต่อไปอย่างเข้มแข็ง เพื่อควบคุมและลดปริมาณการบริโภคแอลกอฮอล์ของสังคม ป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ลดความเสี่ยงที่เกิดจากการบริโภค เช่น อุบัติเหตุ และป้องกันความรุนแรงที่เกิดจากการบริโภค

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบกับชุดข้อแนะนำสำหรับผู้ไม่สมควรดื่มสุรา ได้แก่ เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์ หญิงเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ผู้ที่ขับขี่ยานพาหนะ ผู้ที่ทำงานกับเครื่องจักรกลหรือเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวและประชาชนทุกเพศทุกวัย