ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“ทำไมเราถึงต้องมาดูแลงานด้านสุขภาพของผู้ต้องขัง ทำไมเราถึงอยากให้เขาเลิกสูบบหรี่ได้ ทั้งที่เรามีหน้าที่ดูแลพยาบาลผู้ต้องขังเมื่อเขาเจ็บป่วยขึ้นมา แต่เรากลับคิดว่า เราต้องดูแลให้เขามีสุขภาพกายและใจที่ดีเหมือนกับพวกเขาเป็นญาติของเราคนหนึ่ง นั่นคือที่มาที่ทำให้ผมหันมาทำงานเชิงรุกด้านสุขภาพนอกเหนือจากงานประจำ”

เศกสรร จันทรปราสาท

จากคำกล่าวข้างต้นของ เศกสรร จันทรปราสาท พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หัวหน้าโครงการสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ในเรือนจำกลางกำแพงเพชร ที่หันมาส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมีสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากพิษของบุหรี่

เศกสรร กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการทำโครงการเรือนจำปลอดบุหรี่เกิดจากสิ่งที่ตนเห็นว่า ในเรือนจำมีการสูบบุหรี่เป็นจำนวนมากผลกระทบต่อผู้ต้องขังที่ไม่สูบพลอยรับได้ผลกระทบทางร่างกายไปด้วย ซึ่งเราต้องคุ้มครองบุคคลที่ไม่สูบด้วย เพราะเป็นสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ และเมื่อตนได้เข้าไปรับการอบรมจากเครือข่ายพยาบาลเพื่อการควบคุมยาสูบแห่งประเทศไทย จึงเป็นที่มาของการทำให้เรือนจำกลางกำแพงเพชรเป็นเรือนจำปลอดบุหรี่ขึ้นมา

นับเป็นความโชคดีของเรือนจำกลางกำแพงเพชรที่มีผู้บริหารอย่าง น.ส.โศรยา ฤทธิ์ร่าม ผู้บัญชาการเรือนจำกลางกำแพงเพชร เห็นด้วยที่จะให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการเลิกสูบบุหรี่ในเรือนจำมาตั้งแต่ปี 2554 โดยมีการจัดตั้งคณะทำงาน และมีผู้บัญชาการเรือนจำเป็นประธานกรรมการ และมีเจ้าหน้าที่ทุกส่วนในเรือนจำมีส่วนร่วมในการทำงาน

เศกสรร กล่าวว่า กลยุทธ์ในการทำงานที่จะทำให้ผู้ต้องโทษเลิกบุหรี่ได้ เริ่มจากกลุ่มผู้ต้องขังที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ ที่เข้ามาหาเราให้เราช่วยรักษา ตนจะพูดถึงพิษภัยและอันตรายของบุหรี่ รวมทั้งโรคที่เกิดจากบุหรี่ ทำให้ผู้สูบมีอายุที่สั้นลง ซึ่งผู้ต้องขังเหล่านี้ เขามีความหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะมีโอกาสได้ไปเจอหน้าครอบครัว หรือคนที่เขารัก ซึ่งทำให้ผู้ต้องขังส่วนหนึ่งสามารถเลิกสูบบุหรี่ได้

นอกจากนี้จากเดิมที่แดนต่างๆ ในรือนจำจะมีที่ให้สูบบหรี่อยู่ประมาณแดนละ 3 จุด ให้ลงลงมาเหลือแดนละ 1 จุดคือที่แดน 3 และแดน 5 เท่านั้น โดยจดที่จะสูบบุหรี่ได้จะต้องเป็นจุดที่ไกลจากผู้ต้องขังคนอื่น และบางจุดต้องไปนั่งสูบบุหรี่กันกลางแดดเลยทีเดียว

เศกสรร บอกต่อว่า ยังมีมาตรการกำหนดให้เรือนจำสามารถจำหน่ายยาสูบและหรี่ให้กับผู้ต้องขังได้เพียงสัปดาห์ละ 2 วันเท่านั้น คือ วันจันทร์ และวันศุกร์ เท่านั้น

เมื่อถามว่า ทำไมไม่ยกเลิกการจำหน่ายยาสูบในเรือนจำไปเลย เศกสรร ให้เห็นผลว่า ที่ไม่สามารถยกเลิกได้เลย มันมองได้ 2 กรณี ถ้ามองว่าเป็นสถานที่ราชการ เราสามารถยกเลิกได้ แต่ถ้าเรามองว่าเรือนจำเปรียบเสมือนบ้านของผู้ต้องขังเราไม่สามารถห้ามได้ และอีกอย่างอาจจะกลายเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ด้วย และประกอบกับผู้ต้องขังบางคนมีความเครียดมาก จึงเป็นสิทธิส่วนบุคคลของผู้ต้องขัง

การทำงานจะดำเนินไปได้ด้วยดี จะต้องมีการกำหนดจุดปลอดบุหรี่ 100% ทางเรือนจำกลางกำแพงเพชรจึงได้กำหนดให้สถานพยาบาลฯ แดนหญิง เรือนนอน ฝ่ายการศึกษา ห้องสมุด ชุมชนบำบัด และแดนผู้สูงอายุ เป็นจุดปลอดบุหรี่ 100% ซึ่งจะเป็นตัวช่วยอีกตัวหนึ่งให้ผู้ที่เลิกไม่กลับไปสู่สภาพแวดล้อมเดิมๆ ที่อาจจะทำให้กลับไปสูบใหม่อีกครั้ง

ทั้งนี้ตัวเลขของผู้ต้องขัง จำนวนทั้งสิ้น 2,699 คน แบ่งเป็นผู้ที่สูบบหรี่ (ชายทั้งหมด) จำนวน 1,484 คน และผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ จำนวน 1,215 คน (เป็นผู้ต้องขังหญิงจำนวน 394 คน)

เศกสรร กล่าวถึงการทำงานว่า เราจะเริ่มจากตัวผู้ป่วยเรื้อรังดังที่กล่าวมาข้างต้นก่อน จากนั้นเมื่อมีผู้ต้องขังเลิกได้แล้ว เราจะชักชวนให้คนเหล่านี้มาชักชวนเพื่อนผู้ต้องขังด้วยกัน โดยผู้ต้องขังเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยให้ความช่วยเหลือกับผู้ต้องขังที่จะต้องการเลิกสูบหรี่ ซึ่งการทำงานของทางเรือนจำไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อน โดยจะเริ่มจากการให้ความรู้ผ่านสื่อต่างๆ

ส่วนตัวช่วยในการเลิกบุหรี่คือ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะนาว หรือสมุนไพร เช่น กานพูล เป็นต้น ซึ่งตัวช่วยเหล่านี้จะทำให้ผู้สูบรู้สึกว่า รสชาติของบุหรี่เปลี่ยนไป และมีการจัดตั้งคลินิกเลิกบุหรี่ที่สถานพยาบาลของเรือนจำ

“ถามว่าทำไมเราไม่ใช้ยาเป็นตัวช่วยในการเลิกสูบบุหรี่ คำตอบคือ สถานพยาบาลในเรือนจำ ไม่มีแพทย์ประจำ และยาที่จะใช้ในการเลิกบุหรี่จำเป็นต้องสั่งจ่ายจากแพทย์เท่านั้น” เศกสรร กล่าว

ผลที่ได้คือ ยอดการจำหน่วยของยาเส้นและบุหรี่ของร้านค้าในเรือนจำลดลงถึง 50%.....นั่นคือคำตอบที่ชัดเจน

“หัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้ต้องขังเลิกสูบบุหรี่ได้คือ ต้องมีเป้าหมายในการเลิกอย่างชัดเจน และนอกจากนี้ยังพบว่า การหักดิบ จะช่วยให้เลิกได้อย่างเด็ดขาดมากกว่าค่อยๆ ลดปริมาณการสูบในแต่ละวัน ส่วนที่มีการพูดถึงการลงแดง ผู้ที่ติดบุหรี่จะมีอาการที่หงุดหงิด ทุรนทุราย อยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ก็จะเลิกสูบบุหรี่ได้” เศกสรร กล่าว

ทั้งนี้ผลจากการทำงานที่ทุ่มเทจนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของสังคม ส่งผลให้ เศกสรร จันทรปราสาท ได้รับรางวัลพยาบาลที่มีผลงานดีเด่นด้านการควบคุมยาสูบ พ.ศ. 2558 จากเครือข่ายพยาบาลเพื่อการควบคุมยาสูบแห่งประเทศไทย และสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง