ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

2 กรรมการแพทยสภา ฟ้องอาญา นายกฯ-เลขาฯ-โฆษก เหตุยกทีมไปขอโทษผู้แทนองค์การอนามัยโลก “หมอสุกิจ” ระบุ ปล่อยไปตามกระบวนการกฎหมาย ว่าตามข้อเท็จจริง ชี้พฤติกรรม พญ.เชิดชู-พญ.อรพรรณ์ ไม่เหมาะสมจริง จึงต้องขอโทษเพื่อป้องการการเข้าใจผิด

เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2560 พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา และ พญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล กรรมการแพทยสภา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา นายกแพทยสภา นพ.สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์ เลขาธิการแพทยสภา และ พญ.ชัญวลี ศรีสุโข โฆษกแพทยสภา ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

นพ.สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2560 มีการจัดเวทีสัมมนาประชาพิจารณ์ ร่าง พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ฉบับที่...พ.ศ. ... และมี นพ.แดเนียล เอ.เคอร์แทสซ์ (Dr.Daniel A.Kertesz) ผู้แทนองค์การอนามัยโลก (WHO) เข้าร่วม โดย พญ.เชิดชู ได้พยายามขัดขวางการนำเสนอของ นพ.แดเนียล จนที่สุดแล้วคณะผู้บริหารต้องเข้าไปแสดงการขอโทษ นพ.แดเนียล ซึ่งทำให้ พญ.เชิดชู มองว่าเป็นการยอมรับความผิด

นพ.สุกิจ กล่าวว่า ในประเด็นดังกล่าวส่วนตัวคิดว่าไม่มีอะไร ซึ่งในวันดังกล่าวก็ได้ติดตามนายกแพทยสภาเพื่อไปเจอ นพ.แดเนียล เนื่องจากเห็นว่า พญ.เชิดชู และ พญ.อรพรรณ์ ในฐานะกรรมการแพทยสภา ที่กระทำต่อ นพ.แดเนียล ในเวทีสัมมนารับฟังความเห็นแก้กฎหมาย สสส. อาจจะไม่เหมาะสม จึงขอเข้าไปทำความเข้าใจว่าพฤติกรรมของกรรมการแพทยสภา 2 รายนั้น ไม่ได้ทำในนามแพทยสภา ไม่อยากให้เข้าใจผิด

“เราได้เข้าไปขอโทษแทนต่อพฤติกรรมที่เกิดขึ้นแบบนั้น เพราะเกรงว่าท่านจะเข้าใจว่า 2 คนนี้ เป็นกรรมการของแพทยสภา แล้วอาจจะเป็นตัวแทนของแพทยสภา จึงชี้แจงท่านว่าไม่ใช่ ก็มีการพูดคุยกับท่านเพียงเท่านี้ ทีนี้ทางอาจารย์เชิดชูและอาจารย์อรพรรณ์ท่านก็เห็นว่าลักษณะแบบนั้นเท่ากับว่าอาจารย์ทั้งสองเป็นผู้ทำไม่ถูก จึงกลายเป็นประเด็นว่าหมิ่นประมาทท่าน ท่านจึงฟ้องอาญาจากพฤติกรรมที่เราไปขอโทษ ดร.แดเนียล ก็มีแค่นี้เอง อย่างอื่นไม่มีอะไร” นพ.สุกิจ กล่าว

นพ.สุกิจ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่รู้สึกกังวลอะไร ปล่อยให้กระบวนการทางกฎหมายดำเนินการไป และตัวเองก็ไม่ได้เข้าร่วมเวทีแสดงความคิดเห็นหรืออยู่ในเหตุการณ์แต่อย่างใด ทราบพฤติกรรมจากข่าวที่ปรากฏทางสื่อมวลชน แต่ส่วนตัวก็เห็นว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่เหมาะสมในเวทีระดมความคิดเห็น

“การเข้าไปขอโทษก็คือท่านนายกฯ ในฐานะหัวหน้าทีมบริหารแพทยสภานำทีมเลขาฯ และโฆษก ติดตามไปเท่านั้น ไม่มีอะไร จากนี้เดี๋ยวอัยการหรือทนายก็คงช่วยกัน ซึ่งขณะนี้ก็มีโอกาสได้พบกับอาจารย์ทั้งสองแต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรเกี่ยวกับคดีนี้ ยืนยันว่าส่วนตัวไม่ได้มีอะไรกับอาจารย์ทั้งสองท่านนี้ ก็ให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงและกระบวนการ แต่เราก็บริสุทธิ์ใจ” นพ.สุกิจ

อนึ่ง ในเวทีรับความความคิดเห็นดังกล่าว ระหว่างที่ นพ.แดเนียล เริ่มแสดงความเห็นเพียงไม่ถึงหนึ่งนาที พญ.เชิดชู และพญ.อรพรรณ์ ได้กดไมโครโฟนโดยไม่รอให้ประธานเรียกให้พูด และไม่ยินยอมให้ผู้แทนองค์การอนามัยโลกได้แสดงความคิดเห็นจบ ทั้งที่ผู้ดำเนินการประชุมแจ้งว่าจะขอให้พูดเพียง 5 นาทีเท่านั้น โดย พญ.เชิดชู กล่าวว่า “การทำประชาพิจารณ์มันเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติหรือ WHO ไหม ถามง่ายๆ ว่า WHO เป็นพ่อเราหรือเปล่าหรือมีเวทีเยอะแยะที่องค์การอนามัยโลกจะไปพูด ไม่จำเป็นต้องมาพูดในเวทีนี้” ขณะที่ พญ.อรพรรณ์ กล่าวว่า ถ้ายอมที่ไม่ใช่สัญชาติไทยมาให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ การทำประชาพิจารณ์เรื่องนี้จะโมฆะ จะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือเป็นการแทรกแซงเมืองไทยหรือไม่