ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ร.พ.จุฬาฯ เปิดบริการอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ อาคารรักษาพยาบาลรวมอาคารใหม่ขนาด 29 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งสิ้น 224,752.25 ตารางเมตร นับเป็นอาคารโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน “มิติใหม่แห่งการให้เพื่อทุกชีวิต” เพื่อประชาชนทุกชนชั้น

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พร้อมเปิดบริการ “อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์” เป็นอาคารรักษาพยาบาลรวมอาคารใหม่ขนาด 29 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งสิ้น 224,752.25 ตารางเมตร นับเป็นอาคารโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Excellence Center) ที่มีความเพียบพร้อมด้วยบริการทางการแพทย์ตามมาตรฐานสากลที่ทันสมัย และครบวงจรแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service) ด้วยการบริการรักษาพยาบาลที่สะดวกรวดเร็ว และเข้าถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ดียิ่งขึ้น ในระดับพรีเมี่ยมแก่ประชาชนทุกระดับในราคามิตรภาพที่คนไทยสามารถจ่ายได้ และคาดว่าจะสามารถรองรับผู้ป่วยในได้กว่า 1,200 เตียง ซึ่งถือเป็น “มิติใหม่แห่งการให้เพื่อทุกชีวิต” ที่ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จะมอบให้กับประชาชนคนไทยทุกชนชั้น

ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาทางกายภาพของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในด้านความไม่เป็นหมวดหมู่และปัญหาอาคารรักษาพยาบาลที่กระจัดกระจาย ไม่เป็นบริการแบบเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service) ทำให้ไม่สามารถให้บริการ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ห้องพักสำหรับผู้ป่วยไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้รับบริการ รวมทั้งข้อจำกัดในการรองรับผู้ป่วยสาธารณภัยพิบัติ อุบัติภัยต่างๆ (Mass Casualty) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จึงได้สร้างอาคาร ที่มีขนาดใหญ่สองหลังเชื่อมต่อกันซึ่งเป็นอาคารรักษาพยาบาลรวม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถโดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ให้ใช้ชื่ออาคารว่า “อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์” ซึ่งมีความหมายว่า “อนุสรณ์ที่เป็นมงคลของสองพระองค์”

จากต้นปี 2559 ซึ่งเปิดให้บริการเพียง ชั้น 19 หอผู้ป่วยสามัญ ชั้น 28 ห้องพิเศษเดี่ยว ชั้น 7 หน่วยเอ็กซเรย์ หลอดเลือดรังสีร่วมรักษา, ชั้น 2 ศูนย์การวินิจฉัยด้วยภาพ (Imaging center) MRI-เวชศาสตร์นิวเคลียร์ วันนี้ อาคาร “ภูมิสิริมังคลานุสรณ์” ได้เปิดให้บริการศูนย์ความเป็นเลิศด้านการรักษาของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แล้ว 6 ศูนย์ ซึ่งได้แก่

1) ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร

2) ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ด้านโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร

3) ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคไตในภาวะวิกฤต

4) ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ โรคลมชักครบวงจร

5) ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ

และ 6) ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านสเต็มเซลล์และเซลล์บำบัดและจะเริ่มทยอยเปิดบริการด้านอื่นๆ ในลำดับต่อๆไป ซึ่งศูนย์ความเป็นเลิศด้านต่างๆโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้เปิดให้บริการแล้วรวมทั้งหมด 21 ศูนย์

นอกจากนี้อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ยังรวมบริการต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ตามอาคารต่างๆ มาไว้ในอาคารเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปหลายอาคารเหมือนเมื่อก่อน เช่น การย้ายผู้ป่วยที่กระจัดกระจายตามตึกต่างๆ เข้ามาพักที่หอผู้ป่วยในอาคารนี้ที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ถึง 1,250 เตียง มีส่วนสนับสนุนการให้บริการผู้ป่วยใน (In patient) แบบครบวงจร (One-Stop Service) ตั้งแต่ ชั้น 5-28 มีห้องผ่าตัดรวม 62 ห้อง สำหรับทุกสาขาวิชา

ชั้น 2 ห้องตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นสะท้อนในสนามแม่เหล็ก (MRI) ห้องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) รวมถึงการปรับห้องผ่าตัดระบบประสาทสมองให้มีเครื่องตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นสะท้อนในสนามแม่เหล็กพร้อมขณะผ่าตัด เพื่อตรวจดูรอยโรคที่อยู่ในเนื้อสมองว่าผ่าออกได้หมดและไม่มากเกินไปห้องผ่าตัด Integrated ที่มีอุปกรณ์ควบคุมเทคโนโลยีต่างๆ ในห้องสามารถถ่ายทอดและสอนไปยังห้องประชุมในโรงพยาบาลและต่างประเทศได้

ห้องผ่าตัด Hybrid ที่สามารถผ่าตัดหลอดเลือดใหญ่หรือผ่าตัดสอดสายเพื่อการรักษา (Intervention surgery) ห้องผ่าตัด Robotic เป็นการผ่าตัดที่ใช้แขนหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดทำให้มีความเที่ยงตรงแม่นยำและสงวนเนื้อเยื่อที่ไม่จำเป็นต้องตัดหรือตัดแล้วเกิดผลเสียกับผู้ป่วย

อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ จะเป็นมิติใหม่แห่งการให้เพื่อทุกชีวิต ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการรักษาที่ดี มีคุณภาพให้กับประชาชนในทุกชนชั้น แต่ไม่ได้หมายความเพียงแค่การเข้าถึงบริการด้านความเป็นเลิศทางการแพทย์เท่านั้น ในความเป็นมิติใหม่ของการให้เพื่อทุกชีวิต ยังหมายรวมถึงการให้บริการในด้านต่างๆ ของอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ด้วยเช่นกัน ซึ่งประกอบด้วย

1) มิติใหม่ของการเข้าถึงความเป็นเลิศทางการแพทย์

2) มิติใหม่ของการจัดการด้านการบริการ

3) มิติใหม่ของการจัดการด้านกายภาพ

4) มิติใหม่ของการพยาบาลผู้ป่วยหมายถึงการทำงานร่วมกันของทุกส่วนงาน

เพื่อการรักษาพยาบาลที่เข้าถึงง่าย รวดเร็ว และมีการดูแลแบบองค์รวม รพ.จุฬาฯ มุ่งหวังที่จะเป็นสถาบันต้นแบบทางการแพทย์ที่มีคุณธรรมด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับนานาชาติ ด้วยวิสัยทัศน์จุดเปลี่ยนแห่งมิตรภาพ การบริการสุขภาพ ของคนไทยทุกชนชั้นสู่มาตรฐานสากล ไม่ว่าจะยากดีมีจน ทุกคนสัมผัสได้ด้วยหัวใจกาชาด ศ.นพ.สุทธิพงศ์กล่าว

ศ.นพ.รื่นเริง ลีลานุกรม รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายบริการ กล่าวว่า มิติใหม่ของการให้ด้านบริการ ของอาคารภูมิสิริฯ หมายถึงการให้บริการ แบบ One-Stop Service เป็นการปรับการให้บริการผู้ป่วยในจากเดิมอยู่ในพื้นราบ ซึ่งจะมีอาคารต่างๆ กระจายอยู่ทั่วไปเป็นจำนวนมากเมื่อสร้างอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์แล้วงานบริการได้เปลี่ยนไปเป็นแบบแนวดิ่ง รวมงานบริการต่างๆ มาไว้ในอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ได้แก่ ห้องพักผู้ป่วยจำนวน 1,250 เตียง ห้องไอซียู จำนวน 58 เตียง ห้องผ่าตัดจำนวน 62 ห้อง ฝ่ายรังสีวิทยาที่มีเครื่องมือทางรังสีรักษามากที่สุดในประเทศไทยเฉพาะ ในอาคารภูมิสิริฯ เครื่องวินิจฉัยด้วยคลื่นสะท้อนในสนามแม่เหล็ก (MRI) จำนวน 4 เครื่อง เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scanner) จำนวน 4 เครื่อง ห้องเอกซเรย์ ห้องเจาะเลือด ธนาคารเลือด มารวมไว้ที่อาคารแห่งนี้ซึ่งจะสะดวกต่อการดูแลรักษาพยาบาลและติดตามผลของผู้ป่วยแบบเบ็ดเสร็จจบภายในอาคารเดียว

การดำเนินการด้านการบริการจะดำเนินงานภายใต้นโยบาย 4 ด้านเป็นสำคัญ คือ ความปลอดภัย ความสะอาด ความรวดเร็ว และความสะดวกสบาย นอกจากนี้ ที่ชั้น 14 ของอาคารยังได้จัดพื้นที่สำหรับผู้ป่วยที่สามารถปฏิบัติศาสนกิจตามความเชื่อของตนถึง 3 ศาสนา คือ ศาสนาพุทธ อิสลาม และคริสต์

รศ.นพ.ธีระ วัชรปรีชานนท์ รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายกายภาพ กล่าวว่า อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ได้เตรียมความพร้อมของพื้นที่การให้บริการภายใน ด้วยการวางแผนในการจัดระเบียบพื้นที่ ให้เป็นสัดส่วน โซน A B C D ตั้งแต่พื้นที่การรักษาพยาบาล การเรียนการสอน พื้นที่บริการผู้ป่วย และญาติได้แก่ ที่จอดรถ ร้านอาหาร ร้านค้าที่จำเป็น ห้องน้ำ พื้นที่นันทนาการรวมทั้งคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้สนับสนุนผลงานวิจัยเพื่อการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ ทางวิชาการ นอกจากนี้ในแต่ละชั้นยังมีความพร้อมในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาด โดยใช้ตามมาตรฐาน JCI Standard และมีระบบความปลอดภัยที่เป็นเลิศ โดยแบ่งประเภทพื้นที่ตามความเสี่ยงตามมาตรฐาน NHS-National Patient Safety Agency จากประเทศอังกฤษซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มพื้นที่ดังนี้

1) พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงมาก เช่น ห้องผ่าตัด ห้องคลอด ห้องผู้ป่วยติดเชื้อ

2) พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น แผนกฉุกเฉิน แผนกปลอดเชื้อ ห้องแล็บ แผนกเนรสเซอรี่

3) พื้นที่ที่มีความเสี่ยงปานกลาง เช่น ห้องตรวจ แผนกผู้ป่วย ห้องพักผู้ป่วย แผนกจ่ายยา แผนกบริการผู้ป่วยนอก ห้องประชุม

4) พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น สำนักงาน ห้องพัสดุ พื้นที่รอบนอก ลานจอดรถ

สำหรับความปลอดภัยเรื่องอัคคีภัย ทางโรงพยาบาลได้กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบและจัดเตรียมอุปกรณ์ ให้สอดคล้องกับแผนการป้องกันและระงับอัคคีภัย มีการฝึกซ้อมการหนีไฟ และสื่อสารให้บุคลากรภายในอาคารรับทราบแนวทางการปฏิบัติ และในแต่ละชั้นแต่ละโซนยังมีประตูกันไฟและควัน และมีห้องควบคุมกล้องวงจรปิด CCTV ในทุกชั้น ทุกจุดรวม 1,237 ตัว ซึ่งจะทำให้การดูแลรักษาความปลอดภัยแก่ผู้ป่วยและผู้มาใช้บริการมีประสิทธิภาพ และทั่วถึงมากขึ้น

นางพรทิพย์ ควรคิด หัวหน้าพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า “การดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยในอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ จะมีทั้งผู้ป่วยพักค้างคืนและไม่พักค้างคืนมีทั้งผู้ป่วยที่มารับการรักษาพยาบาลและมารับการตรวจวินิจฉัยซึ่งในส่วนของฝ่ายการพยาบาลได้มีการเตรียมความพร้อมของบุคลากรทั้งด้านจำนวน และความรู้ความสามารถ เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนหรือประเภทของผู้มารับบริการ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นำเข้ามาใช้ ในการดูแลผู้ป่วยเรามีการออกแบบการดูแลผู้ป่วยใน ด้วยระบบพยาบาลแบบ Total Care ซึ่งมีความเหมาะสมในด้านภาระงานกับจำนวนพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยทุกท่านได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง โดยมุ่งหวังให้การพยาบาลที่มีมาตรฐานมีความปลอดภัยในทุกขั้นตอน และให้ความใส่ใจกับความต้องการด้านสุขภาพ ถึงแม้อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ จะมีพื้นที่ที่ให้บริการกว้างขวางมากมายมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่สิ่งหนึ่งที่ฝ่ายการพยาบาลได้ตั้งมั่นยึดถือ และปฏิบัติโดยไม่เปลี่ยนแปลง คือการดูแลผู้ป่วยดุจญาติมิตร ภายใต้อัตลักษณ์คนโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คือ “ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ เอื้ออาทร”

ด้วยอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ เป็นอาคารใหม่ที่ทันสมัยทั้งในเรื่อง เทคโนโลยีทางการแพทย์การมีศูนย์การแพทย์หลายๆ ศูนย์รวมอยู่ในอาคารเดียวกัน มีห้องผ่าตัด ห้องเอกซเรย์ ธนาคารเลือด มีระบบการจัดส่งข้อมูลผู้ป่วยที่รวดเร็ว มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมและทันสมัยรวมถึงการออกแบบหอผู้ป่วยใน ให้มีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อกับการฟื้นฟูทั้งร่างกาย และจิตใจของผู้ป่วยให้เคาน์เตอร์พยาบาลทุกชั้นทุกแผนก มีห้องประชุมพยาบาล แฟ้มเอกสารข้อมูลผู้ป่วยตั้งอยู่กลางโซน ล้อมรอบด้วยห้องพักของผู้ป่วย ซึ่งนับเป็นมิติใหม่ของการให้ที่สนับสนุนให้การทำงานของแพทย์ และพยาบาลเข้าถึงผู้ป่วยได้อย่างใกล้ชิดสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิผลมากยิ่งๆ ขึ้น นางพรทิพย์ กล่าว

ผศ. (พิเศษ) นพ.สุรินทร์ อัศววิทูรทิพย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฯ ด้านภาพลักษณ์องค์กร กล่าวถึง สื่อสนับสนุนด้านประชาสัมพันธ์ “อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ มิติใหม่แห่งการให้เพื่อทุกชีวิต” ได้เตรียมสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งการบริการในแต่ละชั้นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ป่วยและญาติ นอกจากนี้ยังได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณา ในชื่อชุด Briefcase ภายใต้แนวคิด “โรคภัยไม่เลือกฐานะ ไม่เลือกชนชั้น” ความยาว 30 วินาที ออกอากาศทางดิจิตอลทีวี และวีดิโอออนไลน์ ความยาว 2.45 นาที โดยจะเริ่มออกอากาศในวันที่ 1 สิงหาคม 2560 เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบวัตถุประสงค์ของการสร้างอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ และเพื่อประชาชนทุกระดับชั้นสามารถเข้าถึงการรักษา และเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย สะอาด สะดวกสบาย มีความปลอดภัย ครบวงจรอย่างแท้จริง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ มิติใหม่แห่งการให้เพื่อทุกชีวิต”