ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศ.สตีเฟน ฮอว์กิงแสดงความเป็นห่วงต่ออนาคตของระบบสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส) ของอังกฤษ พร้อมวิจารณ์นโยบายของรัฐบาลและนายเจเรมี ฮันท์ รมว.สาธารณสุขอังกฤษ

ศ.สตีเฟน ฮอว์กิง

เว็บไซต์บีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2560 ว่า ศ.ฮอว์กิงวัย 75 ปีซึ่งสนับสนุนพรรคเลเบอร์อย่างเปิดเผยวิจารณ์นายฮันท์ว่า “จงใจ” เลือกเฉพาะข้อมูลที่สอดคล้องกับนโยบายของตน และทำให้เขากังวลถึงการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในระบบเอ็นเอชเอสของอังกฤษ ขณะที่ รมว.สาธารณสุขอังกฤษโต้กลับว่า ศ.ฮอว์กิงวิจารณ์ในลักษณะ “ถ่วงความเจริญ” เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรงบประมาณพิเศษสำหรับเอ็นเอชเอสซึ่งล่าสุดได้รับการจัดอันดับเป็นระบบสุขภาพที่ดีที่สุด

ศ.ฮอว์กิงแสดงความเป็นห่วงต่ออนาคตของเอ็นเอชเอสระหว่างการบรรยายที่ราชสมาคมแพทยศาสตร์แห่งอังกฤษที่กรุงลอนดอน โดยผู้ประพันธ์ “A Brief History of Time” ได้กล่าวความจำเป็นที่จะต้องวิจารณ์เอ็นเอชเอสเพราะเขาเองก็เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์จากบริการของเอ็นเอชเอส

เอ็นเอชเอสช่วย ศ.ฮอว์กิงไว้อย่างไร

ศ.ฮอว์กิงไล่เรียงถึงหลายเหตุการณ์ที่เขาได้รับความช่วยเหลือจากเอ็นเอชเอส รวมถึงเมื่อครั้งที่ติดเชื้อปอดอักเสบในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปี 2528 ซึ่งแพทย์เสนอให้ปิดเครื่องช่วยหายใจเพื่อให้เขาจากไปอย่างสงบแต่ภรรยาของเขาปฏิเสธและขอให้ส่งตัวกลับมารักษาที่โรงพยาบาลแอดเดนบรูกส์ในเมืองเคมบริดจ์จนฟื้นตัว รวมถึงในอีก 14 ปีให้หลังซึ่งเขาได้รับการผ่าตัดซ่อมแซมลำคอภายหลังอาการทรุดลงจนส่งผลกระทบต่อการรับประทานอาหารและการหายใจ

“หลายครั้งแล้วที่เอ็นเอชเอสและการรักษาพยาบาลที่ผมได้รับ ช่วยให้ผมมีโอกาสรอดชีวิตต่อจนสามารถร่วมไขความลับของจักรวาล” ศ.ฮอว์กิงกล่าวโดยอ้างถึงทฤษฎีหลุมดำและต้นกำเนิดของจักรวาล

เหตุใด ศ.ฮอว์กิงจึงห่วงเอ็นเอชเอส

ศ.ฮอว์กิงแสดงความกังวลถึงทิศทางของเอ็นเอชเอสโดยเฉพาะการเดินหน้าสู่ “ระบบประกันสุขภาพแบบสหรัฐอเมริกา” โดยเขามองว่าภาคเอกชนกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น รวมถึงการว่าจ้างบุคลากรผ่านนายหน้าซึ่งทำให้ผลกำไรรั่วไหลออกไปจากบริการสุขภาพ

“การถ่ายเทกำไรออกไปจากระบบจะยิ่งส่งเสริมให้ภาคเอกชนสามารถกุมความเบ็ดเสร็จและยิ่งทำให้ค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้น เอ็นเอชเอสจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับการพาณิชย์และจะต้องอยู่พ้นจากเงื้อมมือของผู้ที่ต้องการให้เอ็นเอชเอสกลายเป็นบริการภาคเอกชน” ศ.ฮอว์กิงกล่าว

ศ.ฮอว์กิงกล่าวด้วยว่า ระบบที่มุ่งให้บริการเพื่อสาธารณะเป็นระบบที่ “มีประสิทธิภาพสูงสุด” ดังนั้นความคิดที่ว่าเราไม่สามารถใช้บริการเอ็นเอชเอสจึงไม่เป็นความจริง “เราไม่สามารถขาดเอ็นเอชเอสได้หรอกครับ” ศ.ฮอว์กิงกล่าว

นายเจเรมี ฮันท์ รมว.สาธารณสุขผจญกับความขัดแย้งเรื่องข้อมูลและการให้บริการ 7 วันเมื่อปีก่อน

ศ.ฮอว์กิงยังได้พาดพิงโดยตรงถึงนายฮันท์ โดยระบุว่าแม้เขาเห็นด้วยกับนโยบายที่ให้มีบริการสุขภาพรองรับในช่วงปลายสัปดาห์ แต่รัฐบาลอังกฤษกลับล้มเหลว “ในทางปฏิบัติ” โดยเฉพาะการจัดสรรบุคลากรให้เพียงพอ และวิจารณ์ด้วยว่านายฮันท์เลือกแต่ข้อมูลการศึกษาวิจัยที่สนับสนุนนโยบายของตนเอง

เสียงตอบโต้จาก รมว.สาธารณสุข

นายฮันท์ทวีตโต้ตอบว่า ศ.ฮอว์กิงเป็นนักฟิสิกส์อัจฉริยะแต่กลับประเมินผลลัพธ์จากการบริการปลายสัปดาห์ของเอ็นเอชเอสผิดพลาด และยืนยันว่าการศึกษาวิจัยอัตราตายที่สัมพันธ์กับบริการช่วงปลายสัปดาห์ของเอ็นเอชเอส (Weekend NHS Services) นั้น “ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” นายฮันท์ยังได้ทวีตต่อว่าการแสดงความเป็นห่วงของ ศ.ฮอว์กิงถึงทิศทางการให้บริการว่ากำลังก้าวตามระบบประกันสุขภาพของสหรัฐนั้นเป็นการวิจารณ์ในทำนอง “ถ่วงความเจริญ” และยืนยันว่าพรรครัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณและบุคลากรทางการแพทย์แก่เอ็นเอชเอสมากที่สุดเป็นประวัติการณ์

คำยืนยันจากรัฐบาล

กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษตอบโต้เสียงวิจารณ์จาก ศ.ฮอว์กิงโดยยกหลักฐานว่าจำนวนบุคลากรของเอ็นเอชเอสกำลังเพิ่มสูงขึ้นและกำลังแก้ไขปัญหาการบริการในช่วงปลายสัปดาห์ “อย่างสุดความสามารถ” แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขยังระบุด้วยว่างบประมาณของเอ็นเอชเอสที่ไหลเข้าสู่ภาคเอกชนมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 8 เท่านั้น และแม้เอ็นเอชเอสมีภาระงานล้นมือแต่ก็ยังคงได้รับการจัดอันดับเป็นบริการสุขภาพที่ “ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด และเข้าถึงได้มากที่สุดในกลุ่มชาติพัฒนาแล้ว 11 ประเทศ” จากผลการศึกษาล่าสุดโดยกองทุนเครือจักรภพ

“รัฐบาลสนับสนุนหลักการให้บริการรักษาพยาบาลโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายของเอ็นเอชเอสอย่างเต็มที่ ในการนี้จึงได้เพิ่มการสนับสนุนงบประมาณแก่เอ็นเอชเอสอีก 8,000 ล้านปอนด์ (ราว 342,250 ล้านบาท) ตลอดระยะเวลาห้าปีนับจากนี้” แถลงการณ์ระบุ

แปลและเรียบเรียงจาก Stephen Hawking: I'm worried about the future of the NHS : www.bbc.com

ขอบคุณภาพจาก http://www.azquotes.com/quote/636714

“การถ่ายเทกำไรออกไปจากระบบจะยิ่งส่งเสริมให้ภาคเอกชนสามารถกุมความเบ็ดเสร็จและยิ่งทำให้ค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้น เอ็นเอชเอสจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับการพาณิชย์และจะต้องอยู่พ้นจากเงื้อมมือของผู้ที่ต้องการให้เอ็นเอชเอสกลายเป็นบริการภาคเอกชน” ศ.ฮอว์กิงกล่าว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง