ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอปิยะสกล” เตือนคนไทยอย่าตื่นตระหนกวัคซีนโรคไข้เลือดออก เหตุคนไทยส่วนใหญ่เคยถูกยุงกัด มีภูมิต้านทานแล้ว พร้อมระบุไทยเน้นกำจัดลูกน้ำยุงลาย ยังไม่ใช้วัคซีนเป็นมาตรการป้องกันหลัก เหตุยังต้องศึกษาพัฒนาต่อไป

จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ สั่งระงับการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก ด้วยมีรายงานจากบริษัทผู้ผลิตระบุพบความเสี่ยงผู้ที่ไม่เคยได้รับเชื้อ อาจทำให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยเป็นวัคซีนชนิดเดียวกับที่ฉีดในประเทศไทยนั้น

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรณีวัคซีนไข้เลือดออกทางกรมควบคุมโรคได้แถลงชัดเจนแล้ว โดยผู้ผลิตวัคซีนเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับ แต่ในการผลิตวัคซีนยังคงต้องพัฒนาต่อ เนื่องจากประสิทธิผลวัคซีนไม่ใช่จะได้ผลป้องกันได้ 100% อาจได้ผลเพียงแค่ 60% เท่านั้น

ขณะที่ในส่วนผู้รับวัคซีนต้องดูว่าเป็นผู้ที่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสแล้วหรือไม่ หรือเป็นผู้ที่ไม่เคยมีภูมิต้านทานเลย เพราะหากเป็นคนมีภูมิต้านทานแล้ว เมื่อรับวัคซีนจะทำให้มีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความรุนแรงของโรคลดลง ส่วนคนที่ไม่มีภูมิต้านทานที่รับวัคซีน เมื่อได้รับเชื้อไวรัสอาจมีภาวะตอบสนองที่รุนแรงกว่าปกติได้ อย่างไรก็ตามโอกาสที่คนไทยจะไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อไข้เลือดออกเลยน้อยมาก เพราะต่างเคยถูกยุงกัดทั้งนั้น ยกเว้นในกลุ่มเด็กเล็กๆ เท่านั้น และเป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนชนิดนี้ โดยวัคซีนยังคงต้องมีการศึกษาและพัฒนาต่อไป

นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ในการป้องกันโรคไข้เลือดออก ประเทศไทยยังคงไม่กระโดนข้ามไปใช้วัคซีนป้องกันเป็นมาตรการหลัก โดยเรายังคงใช้วิธีการดูแลเพื่อป้องกัน โดยเฉพาะการกำจัดลูกน้ำยุงลายที่เป็นพาหะนำโรค ซึ่งทุกคนในประเทศสามารถช่วยกันได้เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ ทำให้การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในปีที่ผ่านมาลดน้อยลง นับเป็นมาตรการที่ยังคงต้องทำต่อเนื่อง ไม่ใช่เน้นใช้วัคซีนป้องกันที่มีราคาแพงและอาจเกิดประโยชน์ไม่เต็มที่

ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนไปแล้วนั้น หากระวังไม่ให้ยุงกัดก็เป็นปกติ ดังนั้นเมื่อรับวัคซีนไปแล้วไม่อยากให้หวาดวิตก เพราะคนไทยส่วนใหญ่ต่างมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว โอกาสคนที่จะไม่มีภูมิคุ้มกันเลยนั้นน้อยมาก จึงไม่อยากให้แตกตื่นและหวั่นไหว

ต่อข้อซักถามว่า มีความจำเป็นต้องทบทวนการขึ้นทะเบียนวัคซีนในประเทศไทยหรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า คงไม่ทบทวนเพราะบางประเทศก็ยังใช้วัคซีนนี้อยู่ เพียงแต่ประเทศไทยคงต้องมีความสุขุมในการนำวัคซีนมาเป็นมาตรการหลักในการป้องกันโรคไข้เลือออกในประเทศ