ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เว็บไซต์ npr.org ของสหรัฐอเมริกาหรือ National Public Radio โดย Rob Stein รายงานเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560 ว่า อายุคาดเฉลี่ยในสหรัฐอเมริกาลดลง 2 ปีซ้อน โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากอัตราที่สูงขึ้นของการใช้ยากลุ่มโอปิออยด์เกินขนาด รวมถึงยาออกซีโคโดน

ภาพ: จอห์น มัวร์/เกตตีอิมเมจ

npr.org ระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า การเสียชีวิตเนื่องจากใช้ยากลุ่มโอปิออยด์เกินขนาดเป็นสาเหตุให้อายุคาดเฉลี่ยในสหรัฐอเมริกาลดลง 2 ปีซ้อน

โรเบิร์ต แอนเดอร์สัน (Robert Anderson) หัวหน้ากองสถิติการเสียชีวิตของศูนย์สถิติสาธารณสุขแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวว่า อายุคาดเฉลี่ยที่ต่ำลงเป็นสัญญาณเตือนว่าปัญหาการใช้ยาเกินขนาดกำลังเป็นภัยคุกคามต่อสาธารณสุขและจำเป็นจะต้องแก้ไข

แนวโน้มอายุคาดเฉลี่ยที่ต่ำลงทำให้หลายฝ่ายพากันวิตกกังวลเนื่องจากเป็นตัวชี้วัดของสุขภาวะโดยรวมของประเทศ

“ตัวเลขอายุเฉลี่ยช่วยให้เรามองเห็นแนวโน้มในภาพรวมครับ” แอนเดอร์สัน กล่าว

อายุคาดเฉลี่ย (ระยะเวลาเฉลี่ยที่คาดว่าบุคคลจะมีชีวิตอยู่) ของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหลายทศวรรษและลดลงบ้างเป็นบางครั้ง โดยลดลงครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2536 จากการระบาดของโรคเอดส์ และอายุคาดเฉลี่ยของสหรัฐก็ไม่เคยลดลงติดต่อกัน 2 ปีซ้อนนับตั้งแต่ต้นคริสตทศวรรษที่ 60 เป็นต้นมา

“เรื่องนี้น่ากังวลมากครับ” แอนเดอร์สันชี้

ข้อมูลจากการวิเคราะห์ล่าสุดระบุว่า อายุคาดเฉลี่ยของสหรัฐลดลงจาก 78.9 ปีในปี 2557 เป็น 78.7 ปีในปี 2558 และลดลงต่อเนื่องเป็น 78.6 ปีในปี 2559

“ตัวเลขที่ลดลงหมายความว่าทุกคนจะมีอายุสั้นลง แต่ทิศทางดังกล่าวเป็นการประเมินอายุขัยของประชากรในภาพรวมครับ” แอนเดอร์สันอธิบาย

แอนเดอร์สันกล่าวว่ามีปัจจัยหลายตัวที่อาจมีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงของอายุคาดเฉลี่ย รวมถึงการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ แต่ในขณะเดียวกันก็พบด้วยว่าอัตราการเสียชีวิตจากการใช้ยากลุ่มโอปิออยด์เกินขนาดพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากการใช้ยากลุ่มโอปิออยด์มากเกินขนาดรวมกว่าหลายหมื่นคน รายงานล่าสุดเผยว่าอัตราการใช้ยาเกินขนาดพุ่งขึ้นมาที่กว่า 63,600 รายซึ่งในจำนวนนี้พบว่ากว่า 42,200 รายเกี่ยวข้องกับโอปิออยด์ และจากสถิติปี 2558 พบว่าการเสียชีวิตกว่า 52,400 รายมีสาเหตุจากการใช้ยาเกินขนาด และ 33,000 รายในจำนวนนี้เกี่ยวข้องกับการใช้ยากลุ่มโอปิออยด์

อีกด้านหนึ่งพบว่าอัตราการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดที่เกี่ยวข้องกับโอปิออยด์สังเคราะห์ก็สูงขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้นจาก 3.1 รายต่อ 100,000 คนในปี 2558 เป็น 6.2 รายต่อ 100,000 คนในปี 2559

“ตัวเลขกระโดดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ” แอนเดอร์สันกล่าว โดยเขาชี้ด้วยว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นล่าสุดนั้นเป็นการเพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน “สถิติสะท้อนว่าการใช้ยากลุ่มโอปิออยด์เกินขนาดกำลังเพิ่มขึ้นมากครับ”

อรุณ เฮนดี (Arun Hendi) นักสังคมวิทยาของมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียชี้ว่า “อายุคาดเฉลี่ยที่ลดลงติดต่อกัน 2 ปีซ้อนเป็นเรื่องน่าตระหนกมากครับ ผมคิดว่าเราต้องกังวลถึงเรื่องนี้ครับ”

เฮนดี กล่าวด้วยว่า “รัฐบาลสหรัฐจะต้องเร่งลดปริมาณยากลุ่มโอปิออยด์ที่ท่วมอยู่ในตลาดโดยเฉพาะเฮโรอีนและเฟนตานีล” โดยเขายังเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มการรักษาสำหรับผู้ติดยาและปรับปรุงการเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพสูง

นักวิจัยบางส่วนมองว่าการระบาดของยากลุ่มโอปิออยด์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาเท่านั้น

“สถิติการฆ่าตัวตายสูงกว่านี้มากค่ะ โดยเฉพาะในกลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายยุโรป” แอน เคส (Anne Case) นักเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันกล่าวถึงสิ่งที่ตนและคณะวิจัยเรียกว่า “การตายท่ามกลางความสิ้นหวัง”

“การเสียชีวิตจากเหล้าก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเราจึงมองว่าทั้งหมดล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ากำลังมีอะไรบางอย่างผิดปกติ และสิ่งนั้นกำลังเกิดขึ้นทั่วสหรัฐอเมริกา” เคสชี้

เคส กล่าวด้วยว่าปัญหาด้านอาชีพการงานอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นความรู้สึกสับสนและสิ้นหวัง และอาจมีสาเหตุบางอย่างที่ทำให้คนอเมริกันแต่งงานน้อยลงทุกที สวนทางกับการมีลูกโดยไม่ได้แต่งงานซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ชาวอเมริกันทุกวันนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านเศรษฐกิจและครอบครัว ทำให้พวกเขาตกอยู่ในท่ามกลางสถานการณ์ที่เปราะบางอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับคนรุ่นก่อน”

“การไร้ซึ่งความมั่นคงและความหวังต่ออนาคตอาจทำให้พวกเขาเลือกจบชีวิตด้วยยา ฆ่าตัวตาย หรือเหล้าค่ะ” เคส กล่าว

กลุ่มชาติพันธุ์อื่นในสหรัฐ รวมถึงชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แตกต่างกัน

อัตราการฆ่าตัวตายของชาวแอฟริกัน-อเมริกันเพิ่มขึ้นหลังจากลดลงมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงปัญหายาเสพติดที่เพิ่มขึ้นครับ” ศ.โจนาธาน สกินเนอร์ (Jonathan Skinner) นักเศรษฐศาสตร์วิทยาลัยดาร์ตเมาท์เผย

แปลและเรียบเรียงจาก Life Expectancy Drops Again As Opioid Deaths Surge In U.S.: www.npr.org