ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข เตรียมพร้อมปฏิรูประบบสุขภาพด้านการป้องกัน ควบคุมโรค มีมติ 4 ข้อ 1.เทคโนโลยีสารสนเทศ 2.การบริหารจัดการวัคซีน 3.คณะกรรมการนโยบายสุขภาพแห่งชาติ เขตสุขภาพ และสำนักงานคณะกรรมการเขตสุขภาพ 4.ระบบบริการปฐมภูมิ บูรณาการหน่วยงานภายในและนอกกระทรวงขับเคลื่อนร่วมกัน โดยเน้นประโยชน์ของประชาชนและเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยเป็นหลัก

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2561 ที่โรงแรมคลาสสิคฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมรับฟังข้อสรุปจากการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข เมื่อวันที่ 4 - 6 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายที่จะปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการ ให้เอื้อต่อการบริหารประเทศภายใต้ภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยการปฏิรูประบบสุขภาพมีทั้งด้านการป้องกัน ควบคุม ส่งเสริม คุ้มครอง รักษา และฟื้นฟูสุขภาพให้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ได้มอบหมายกรมควบคุมโรค เป็นแกนนำหลักในการหารือร่วมกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข รวมถึงกำหนดเป้าหมายของการเป็นผู้นำในการป้องกัน ควบคุมโรค พร้อมพัฒนาระบบข้อมูลและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชน

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากที่ประชุมมีมติ ที่สำคัญคือ

1) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้ร่วมเป็นทีมขับเคลื่อนแผนงานเทคโนโลยีสารสนเทศด้านสาธารณสุขกับศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

2) ด้านการบริหารจัดการวัคซีน อาทิ การบรรจุวัคซีนสิทธิประโยชน์ กองทุนวัคซีน และวางระบบวัคซีนของประเทศ มอบหมายให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข โดยมีนายสมชัย จิตสุชน และ นพ.กิตติ กรรภิรมย์ เป็นแกนนำหลักในการหารือร่วมกรมควบคุมโรคและผู้ที่เกี่ยวข้อง

3) ด้านคณะกรรมการนโยบายสุขภาพแห่งชาติ เขตสุขภาพ และสำนักงานคณะกรรมการเขตสุขภาพ มอบหมายให้จัดตั้งคณะทำงานหรือสำนักงานปฏิรูปของกระทรวงที่ดำเนินการต่อในการถ่ายทอดแผนปฏิรูปไปสู่การปฏิบัติโดยดึงทุกภาคส่วนที่มีศูนย์เขตตั้งอยู่ในภูมิภาค เข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผน ลงมือปฏิบัติและวิจัยเพื่อให้ได้ข้อเสนอแนะสำหรับจัดทำนโยบาย โดยเน้นที่ประโยชน์ของประชาชน มีความคุ้มค่า มีประสิทธิผล และเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย

4) ด้านระบบบริการปฐมภูมิ เทคโนโลยีสารสนเทศของโรคไม่ติดต่อและโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้มีการจัดลำดับความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ และเสนอต่อคณะปฏิรูปฯ

ทั้งนี้ มุ่งวางแผนบูรณาการหน่วยงานภายในกระทรวงสาธารณสุข เช่น กรมการแพทย์ กรมอนามัย และกระทรวงอื่นๆ เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีกรมควบคุมโรคในฐานะอนุกรรมการเป็นผู้ดำเนินการ

นพ.สุวรรณชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมโรค ได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมควบคุมโรคที่ดูแลงานในทุกส่วน ทำงานและประสานต่อกับคณะทำงานปฏิรูป เพื่อให้มีประสิทธิภาพ ยกระดับคุณภาพงาน พัฒนาศักยภาพบุคลากร ได้ผลลัพธ์ที่เป็นเลิศ พร้อมกับสร้างผลงานดีเด่นในระดับภูมิภาค และจะมุ่งมั่นดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์และสุขภาพที่ดีของประชาชนไทย และดำเนินการให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย ต่อไป