ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คนไทยไร้สิทธิ ชาวชุมชนพูนทรัพย์ ดีใจได้บัตรประชาชน หลังเกือบ 50 ปี ตกอยู่สถานะคนไทยไร้สิทธิ เหตุพ่อแม่ไม่แจ้งเกิด ประเดิมลงทะเบียน “สิทธิบัตรทอง” หากเจ็บป่วยเข้าถึงการรักษาได้ ไม่เป็นภาระลูกหลานตามจ่าย เผยที่ผ่านมาต้องซื้อยากินเอง หาหมอคลินิก ไม่กล้าเข้า รพ. เพราะไม่มีเงิน พร้อมขอบคุณเขตสายไหมช่วยค้นหาข้อมูล ตามหาพี่ชายยืนยันสถานะเป็นคนไทยให้

นางสาวสำราญ สุขเปล่ง

นางสาวสำราญ สุขเปล่ง อายุ 49 ปี อาชีพรับจ้าง ชาวชุมชนพูนทรัพย์ เขตสายไหม กทม.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนมาก่อน เพิ่งได้รับบัตรประจำตัวประชาชนเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยสาเหตุที่ทำให้ไม่มีบัตรประชาชนเนื่องจากไม่มีการแจ้งเกิด เพราะตอนนั้นพ่อหนีทหารจึงกลัวจะถูกจับ เพียงแต่ให้หมอตำแยช่วยแจ้งผู้ใหญบ้านให้เท่านั้นและได้พาไปอยู่ที่ จ.สุรินทร์ แต่ภายหลังแม่ได้พากลับมาอยู่ กทม.เพื่อทำมาหากิน แต่ก็ไม่ได้แจ้งเกิดให้เช่นกัน เพราะคนสมัยก่อนไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าไหร่

ทั้งนี้การที่ไม่ได้แจ้งเกิดทำให้ตนเองไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้ ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ทำรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมาก เพราะทำให้ตนเองต้องขาดโอกาสหลายอย่างในชีวิต นอกจากไม่สามารถเข้าโรงเรียน เรียนหนังสือเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ แล้ว ยังไม่ได้รับสิทธิหลายอย่างที่รัฐจัดสวัสดิการให้ประชาชน ทั้งที่ตนเองเกิดในประเทศไทย เป็นหนึ่งในคนไทยที่ควรได้รับสิทธิเหล่านั้น โดยเฉพาะสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ในการเข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุข ทำให้รู้สึกกังวลต่ออนาคต เพราะด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นที่มาพร้อมกับความเจ็บป่วย และไม่อยากให้ตัวเองต้องตกเป็นภาระกับลูกหลาน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงมาก

นางสาวสำราญ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พยายามทำบัตรประจำตัวประชาชนมาโดยตลอด เพราะอยากได้สิทธิเหมือนกับคนอื่นๆ ที่เป็นคนไทยเหมือนกัน แต่ก็มักถูกปฏิเสธเพราะเราไม่มีหลักฐานยืนยัน แม้แต่สูติบัตรก็ยังไม่มี จะตรวจดีเอ็นเอก็ไม่รู้จะไปตรวจกับใคร เพราะพ่อแม่ตายหมดแล้ว และในครอบครัวมีพี่น้อง 4 คน มีพี่ชายคนเดียวที่มีบัตรประชาชนเพราะพ่อแม่แจ้งเกิดให้ ส่วนตัวเองและน้องชายอีก 2 คน ไม่มีใครมีบัตรประชาชนเลย ทั้งพี่ชายยังได้แยกย้ายกันไปทำมาหากิน ไม่ได้ติดต่อกันมานาน ทำให้ขาดหายกันไป ไม่รู้ไปอยู่ไหน ดังนั้นจึงไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะยืนยันสถานะได้ แต่จากการประสานงานโดย น.ส.วิมล ถวิลพงษ์ รองประธานชุมชนใต้สะพาน (ชุมชนพูนทรัพย์) และเครือข่าย รวมถึงความช่วยเหลือจากสำนักงานเขตสายไหมที่ช่วยค้นข้อมูลที่อยู่พี่ชาย จนทำให้สามารถติดตามหาพี่ชายได้ และได้มาเป็นพยานบุคคลยืนยันสถานะความเป็นคนไทยให้กับตนเอง ซึ่งต้องขอขอบคุณอย่างมาก

“ทันทีทีรับรับบัตรประชาชนมา รู้สึกดีใจมาก ลูกหลานและคนในครอบครัวเองต่างก็ดีใจเหมือนกัน เพราะแม่จะได้มีสิทธิเหมือนคนไทยคนอื่นบ้าง และหลังจากนี้หากเจ็บป่วยก็จะมีสิทธิบัตรทองดูแล เข้ารักษาพยาบาลได้ ทั้งตัวเองยังรู้สึกเบาใจ เพราะในอนาคตไม่ต้องเป็นภาระหนัก ทำให้ลูกๆ หลานๆ ต้องเดือดร้อนและลำบากจากค่ารักษาแล้ว”

นางสาวสำราญ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้จะพยายามดูแลสุขภาพตนเองให้ดี ไม่ให้เจ็บป่วย หากมีอาการเล็กๆ น้อยๆ ไม่สบายจะรีบไปซื้อยากินเองทันที หรือรีบไปหาหมอที่คลินิกก่อน ไม่ปล่อยให้ป่วยหนัก เพราะรู้ว่าตัวเองนอกจากไม่มีเงินแล้ว ยังไม่มีสิทธิรักษาพยาบาลรองรับ การที่ไม่มีบัตรประชาชนต้องบอกว่าลำบากมาก แม้แต่ในช่วงก่อนมีระบบบัตรทอง การขออนุเคราะห์เพื่อเป็นคนไข้อนาถายังทำไม่ได้เพราะถูกมองว่าเราไม่ใช่คนไทย

นอกจากนี้น้องชายที่ตายไปแล้วและไม่มีบัตรประชาชนเหมือนกัน เขาป่วยเป็นโรคตับแข็งต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ด้วยที่ไม่มีบัตรประชาชนและไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา ทำให้โรงพยาบาลต้องระบุคงเป็นหนี้ค้างชำระ ทั้งหลังเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในการนำศพออกยังไม่สามารถระบุสถานะเป็นคนไทยได้ ต้องใช้สถานะเป็นคนรอพิสูจน์สถานะแทน เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ต้องดิ้นรนเพื่อให้มีบัตรประจำตัวประชาชน เพราะเป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิตในยุคนี้

ด้าน นางสาาววิมล ถวิลพงษ์ รองประธานชุมชนใต้สะพาน (ชุมชนพูนทรัพย์) เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการทำงานร่วมกับเครือข่ายสลัม 4 ภาค ชุมชนใต้สะพาน และเครือข่ายคนไร้บ้านพบว่า ปัจจุบันยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีบัตรประชาชนและกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ที่ผ่านมาเราได้พยายามช่วยเหลือประสานให้คนเหล่านี้เข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลและมีบัตรประชาชน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งสาเหตุของการไม่มีสิทธิ ไม่มีบัตรประชาชนแตกต่างกันไป บางคนออกจากบ้านมานานและไม่ได้ต่ออายุบัตรประชาชนจนข้อมูลทะเบียนราษฎร์ขาดหาย บางคนพ่อแม่ไม่ได้แจ้งเกิด ซึ่งการขอทำบัตรประชาชนสำหรับคนเหล่านี้ยังเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะบางคนไม่มีหลักฐานใดๆ เพื่อยืนยันสถานะคนไทยทั้งที่เกิดและอยู่ในประเทศไทย

ทั้งนี้ในกรณีของนางสำราญที่ทำบัตรประชาชนได้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตสายไหม ที่ช่วยคีย์ข้อมูลจนทำให้สามารถตามหาญาติมายืนยันสถานะได้ และอยากให้สำนักงานเขตในพื้นที่อื่นๆ รวมทั้งที่จังหวัดและอำเภออำนวยความสะดวกในลักษณะเดียวกัน

น.ส.วิมล กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในแง่สิทธิอยากให้คนกลุ่มนี้เข้าถึงสิทธิรักษาพยาบาลก่อน เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ที่ผ่านมาได้เสนอในเวทีรับฟังความเห็นระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการจัดตั้งกองทุนรักษาพยาบาลเพื่อดูแลคนไทยที่ไม่มีบัตรประชาชนก่อน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง